สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในส่วนของจังหวัดนนทบุรี พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทยอยสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านนนทบุรีอ็อกซิเย่น ที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายออกซิเจน สำหรับช่วยหายใจขนาดบรรจุถังหลายขนาด ทั้งที่ใช้ในอาคารและขนาดเคลื่อนที่ได้ พร้อมอุปกรณ์ในการให้ออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย
น.ส.อนงค์ ซึ้งกมลพิสุทธิ์ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ตนเปิดร้านจำหน่ายออกซิเจนมานานกว่า 20 ปีแล้ว ยอมรับว่าหลังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา มีผู้คนมาติดต่อขอซื้อออกซิเจนถังขนาดต่างๆ เพิ่มขึ้นในทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเกิดวิกฤตขาดแคลนเตียงหรือสถานที่รักษาไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อหลายคนต้องกักตัวหรือรอคอยความช่วยเหลืออยู่ที่บ้าน
จึงทำให้มียอดสั่งซื้อถังออกซิเจนเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะถังออกซิเจนขนาดเล็ก 1.5 คิว ที่ใช้งานได้ 3 ชั่วโมง สามารถพกพาติดรถไปได้สะดวก เมื่อใช้หมดก็สามารถมาเติมได้ รวมทั้งถังออกซิเจนขนาดใหญ่ที่สุดคือ ขนาดบรรจุ 6 คิว ใช้ได้นาน 10 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในบ้าน
น.ส.อนงค์ เปิดเผยอีกว่า สถานการณ์ในตอนนี้ทางร้านได้ทำการสั่งซื้อถังออกซิเจนจากจีนเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากหลายประเทศมีการแพร่ระบาดทำให้ถังบรรจุขาดแคลน และราคาถังเพิ่มสูงขึ้น ทางร้านต้องการสั่งถังเข้ามาเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการสำหรับผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้าน โดยจำหน่ายในราคาเดิมถังออกซิเจนจึงมีความสำคัญที่สุดอย่างน้อยช่วยบรรเทาให้กับผู้ป่วยในระหว่างการรอคอยความช่วยเหลือจะมาถึงได้ ทางร้านยืนยันว่าจะยังคงขายตรึงราคาเดิมไว้ไม่มีการปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน
จากการแพร่ระบาดหนักครั้งนี้ ตนได้รับการติดต่อจากนายทุนคนไทยรายหนึ่ง ที่พยายามเจรจาขอซื้อถังออกซิเจน จากทางร้านรวมกันประมาณ 2 หมื่นถัง โดยพร้อมที่จะเข้ามาทำสัญญาซื้อขาย เพื่อนำส่งไปขายต่อที่ประเทศอินเดียที่มีการติดเชื้ออย่างหนัก ทำให้ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าตัว แต่ตนปฏิเสธเพราะต้องการเก็บเอาไว้ขายให้กับคนไทยในประเทศที่กำลังได้รับความเดือดร้อนดีกว่า
เพราะถังบรรจุต้องสั่งนำเข้าอาจขาดแคลนได้ นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือมูลนิธิอาสาสมัคร มาเติมออกซิเจนที่ร้านได้ฟรี โดยไม่คิดเงิน ตนทำแบบนี้มานานแล้ว และยืนยันว่าจะทำแบบนี้ต่อไป