อแมนด้า ชาลิสา ย้ำจุดยืน เคารพทุกคนในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง โดยไม่ต้องมองที่ข้อแม้ใดๆ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กระแสของภาพยนตร์ Gangubai Kathiawadi ได้รับความนิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก รวมทั้งสาวๆคนดังมากมายต่างก็พากันแต่งกายเลียนแบบเป็น คังคุไบ กันค่อนเมืองเพราะอินกับเรื่องราวความเข้มแข็งและทรงพลังของนางเอกสาวในเรื่อง แต่อีกหนึ่งคนที่ต้องบอกว่านอกจากเธอจะขอแปลงโฉมเป็นคังคุไบแบบงดงามแล้ว ยังแฝงไปด้วยอุดมการณ์และทัศนคติที่เธอมีอย่างแน่วแน่เช่นเดิมอีกด้วย

หญิงสาวที่เรากำลังกล่าวถึงคือ อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เธอคือหนึ่งในคนดังที่ถูกยกให้เป็นหญิงสาวผู้สร้างพลังบวกและส่งต่อให้ผู้คนได้อย่างเสมอมา รวมทั้งการแสดงออกถึงทัศนคติที่เธอมีต่อประเด็นต่างๆ ที่แม้จะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ อแมนด้า ชาลิสา คือหนึ่งในคนที่พูดถึงมันอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งจุดยืนที่ตนเองมีต่อเรื่องนั้นๆ ได้อย่างน่าสนใจ

เหมือนกับที่เธอพูดถึงอาชีพ Sex Workers ไว้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนในมุมมองของเธอ

ด้าเชื่อว่า Sex Workers เป็นอาชีพหนึ่งที่ควรได้รับการคุ้มครองและมีสิทธิเท่าเทียมกับอาชีพอื่นๆนะคะ ชีวิตเราร่างกายเราเรามีสิทธิ์เลือก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 ในห้วงเวลาที่ชื่อของ อแมนด้า ชาลิสา คือหญิงสาวผู้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เธอเคยถูกปรามาสว่าตัวเธอนั้นยังขาดในเรื่องของการพูดและการตอบคำถาม นั่นเป็นเพราะในยุคนั้นเป็นยุคที่กลุ่มผู้ติดตามการประกวดนางงามพากันให้ความสำคัญกับการ Speech ที่จับใจผู้ฟัง และในตอนนั้นเองที่เธอได้ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เธออาจจะเป็นผู้พูดที่ไม่เก่ง แต่เธอมีดีกว่านั้น คือเธอพร้อมจะเป็นผู้ฟังที่ดี และสังคมเราต้องการสิ่งนี้ จนนั่นกลายมาเป็นโครงการ “ฟังด้วยใจ” ที่อแมนด้า หยิบเรื่องการเป็นผู้ฟังที่ดีมานำเสนอได้อย่างน่าชื่นชม

นอกจากนั้นแล้ว อแมนด้า ยังคงแสดงจุดยืนที่เธอมีต่อกลุ่ม LGBTQ ว่า
ความเป็นตัวเอง คือสิ่งที่สวยงามที่สุดในแต่ละคน Drag queen เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กล้าจะแสดงความเป็นตัวตนและความคิดสร้างสรรค์ออกมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผม เสียงเพลงและการแสดง โลกของ Drag จึงเป็นสังคมที่ Beauty Standard ถูกขยายกว้างขึ้นแบบไร้กรอบ และไอเดียถูกนำมาต่อยอดแบบไม่รู้จบ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากให้กับเราทุกคน ว่าเราสามารถเป็นใครก็ได้ในแบบที่ใจเราต้องการ ตราบใดที่เราไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เราก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนเขียนกรอบความสวยของตัวเราเอง

ถ้าเราแค่เรียนรู้ที่จะเคารพทุกคนในฐานะ มนุษย์คนนึงโดยไม่จำเป็นต้องสนใจเพศ การแต่งตัว ฐานะ หรือข้อแม้ใดๆ ความเท่าเทียมในสังคมก็จะเกิดขึ้นได้จริงแน่นอนค่ะ

ย้อนกลับไปในช่วงที่ด้าประกวดนางงาม แน่นอนว่ามันคือการแข่งขันค่ะ มันเหมือนได้เปิดโลกของด้า ด้าได้เห็นพลังและความฝันของผู้หญิงทุกคน มันยิ่งใหญ่มากๆ ทุกคนมาเพื่อความฝัน บางคนมาเพื่อเปลี่ยนแปลง บางคนมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายๆคน ด้าเชื่อมาตลอดนะคะ การที่เราอยากเป็นผู้ชนะ เราไม่จำเป็นต้องไปกดคนอื่นให้ดูต่ำลง แต่เราสามารถช่วยเหลือและส่งเสริมกันได้ค่ะ

และนี่คือหญิงสาวผู้ส่งพลังบวกให้กับผู้คนได้อย่างงดงาม

ที่มาภาพ amanda.obdam