ความเร็ว แรง ลื่น เป็นสิ่งที่เกมเมอร์ทุกระดับถวิลหา การที่จะได้ทั้งสามสิ่งนี้มาอยู่ในมือนั้นหัวใจสำคัญคืออุปกรณ์เล่นเกมที่มีประสิทธิภาพสูง สเปกแรง เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและลื่นไหลทุกจังหวะ ทุกเกม เพราะเพียงเสี้ยววินาทีก็ตัดสินชัยชนะได้ บทความนี้ขอแนะนำ 5 อุปกรณ์เทพสำหรับเกมเมอร์ที่จะช่วยให้คุณเล่นเกมได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่ต้องเสียอารมณ์กับอาการแล็ก กระตุก หรือภาพฉีกขาด มาดูกันว่าทั้ง 5 อุปกรณ์ต่อไปนี้มีอะไรบ้าง แต่ละอย่างมีจุดเด่นและน่าสนใจอย่างไร
โน๊ตบุ๊ค Dell G15-W566312600M2CTH
เริ่มต้นกันที่ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ตัวแรงจากค่าย Dell รุ่น G15-W566312600M2CTH รุ่นนี้มาพร้อมสเปกโหดจัดเต็มตั้งแต่หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD พร้อมอัตราการรีเฟรชที่รวดเร็วถึง 165Hz เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล ส่วนหัวใจแห่งความแรงใช้ CPU Intel Core i7-12700H จับคู่การ์ดจอ NVIDIA Geforce RTX 3060 ให้แรมมา 16GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูล SSD ที่ความจุ 512GB สเปกขนาดที่รองรับการเล่นเกมได้ตั้งแต่เกมทั่วไป จนถึงเกมระดับ AAA ได้สบาย อีกหนึ่งจุดเด่นคือระบบระบายความร้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโน๊ตบุ๊กซีรีส์ Alienware ด้วยช่องอากาศคู่และใบพัดลมที่บางเฉียบ เสริมท่อนำความร้อนทองแดงและช่องระบายอากาศถึงสี่ช่อง ทำให้อุณหภูมิของเครื่องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ร้อนจนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของโน๊ตบุ๊คลดลง เหมาะสำหรับการเล่นโหดๆ เป็นอย่างดี สเปกระดับนี้ถูกใจเกมเมอร์สายโหดอย่างแน่นอน
ราคา 53,990 บาท
จอคอม MSI Optix MAG274QRF-QD
จอโน็ตบุ๊กขนาด 15.6 นิ้วอาจไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์บางคน ขอแนะนำ MSI Optix MAG274QRF-QD จอคอมเกมมิ่งคุณภาพเยี่ยมจาก MSI ที่เกิดมาเพื่อการเล่นเกมอย่างแท้จริง ขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว ความละเอียด 2K ใช้พาเนล Rapid IPS ให้ภาพสวยงาม มุมมองการมองเห็นกว้าง 178° พร้อมกับอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่สูงถึง 165Hz และมีอัตราการตอบสนองหน้าจอที่ 1ms GTG เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้ทุกเกมอย่างลื่น ๆ โดยเฉพาะเกมที่ต้องการการตอบสนองที่ฉับไว อย่างเกมแนว FPS ก็ทำได้อย่างดี สำหรับฟังก์ชันการใช้งานของจอรุ่นนี้จัดหนักจัดเต็มโดยให้มาทั้ง NVIDIA G-Sync ช่วยลดการฉีกขาดของภาพ, เทคโนโลยี Quantum Dot ให้สีสันมีความสดใสสมจริง, Game Mode, รองรับเทคโนโลยี HDR, Night Vision, Console Mode ตลอดจนเทคโนโลยีที่จะช่วยถนอนสายตาอย่าง Anti-Flicker และ Blue Light Reduction ที่จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากดวงตา เมื่อต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน บอกเลยว่าจอรุ่นนี้เอาอยู่ทุกเกม
ราคา 17,900 บาท
เมาส์ไร้สาย Razer Viper Ultimate
อุปกรณ์ต่อมาที่ต้องมีคือเมาส์และยุคนี้ต้องเมาส์เกมมิ่งไร้สายเท่านั้น ขอแนะนำ Razer Viper Ultimate นี่คือเมาส์เกมมิ่งไร้สายตัวขายดีของ Razer มาพร้อมสเปกที่สุดทุกด้าน ตัวเมาส์มีดีไซน์แบบสมมาตรใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาและมีน้ำหนักเบาเพียง 74 กรัม เมาส์รุ่นนี้มีทั้งหมด 8 ปุ่ม สามารถตั้งค่ามาโครได้ตามการใช้งาน พร้อมด้วยปุ่มกดลัดทั้ง 2 ข้างของเมาส์ทำให้มีความเท่าเทียมไม่ว่าจะใช้งานมือไหน ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เซนเซอร์ Focus+ ปรับความละเอียดได้สูงถึง 20,000 DPI พร้อมสวิตซ์ Razer Optical สุดอึดใช้งานได้สูงสุด 70 ล้านคลิก รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายผ่านเทคโนโลยี Razer Hyperspeed ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำ รวดเร็ว ทำงานได้เสถียรไม่ต่างจากการต่อสาย ในส่วนของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 70 ชั่วโมง โดยรวมแล้วเป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายที่น่าใช้มาก ๆ ตอบโจทย์คนที่ต้องการใช้เมาส์ที่มีการตอบสนองเร็ว ลื่น และแม่นยำสูง
ราคา 4,990 บาท
คีย์บอร์ดไร้สาย Royal Kludge RK100
มีเมาส์แล้วก็ต้องมีคีย์บอร์ดด้วยให้เข้าเซ็ตกัน ขอแนะนำ Royal Kludge RK100 คีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายแบบ Mechanical ขนาด 96% มาด้วยจำนวนปุ่ม 100 ปุ่มคล้ายกับคีย์บอร์ด Full size มีปุ่มที่ต้องใช้ประจำแบบครบๆ ทั้งปุ่มชุดตัวเลข ปุ่ม F (Function) และปุ่มตัวอักษร แต่จัดเรียงให้ชิดกันช่วยประหยัดพื้นที่มากยิ่งขึ้น
รองรับการเชื่อมต่อได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ เชื่อมต่อด้วยสาย USB, เชื่อมต่อไร้สายความถี่ 2.4Ghz ด้วย USB Dongle และเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ที่รองรับได้ถึง 3 เครื่องพร้อมกัน สลับการใช้งานอุปกรณ์ได้ราบรื่น อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือฟังก์ชัน Hot-Swap ให้ผู้ใช้งานถอดเปลี่ยนสวิตซ์เองได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องบัดกรี และมาพร้อม USB HUB อีก 2 ช่องสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์หรือโอนถ่ายข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ที่ทำการเชื่อมต่อแบบมีสายเข้ากับคีย์บอร์ดตัวนี้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟ RGB วิบวับ จะใช้เป็นคีย์บอร์ดเล่นเกมก็ดี หรือคีย์บอร์ดทำงานก็ได้
ราคา 2,890 บาท
หูฟังไร้สาย Logitech G733 Lightspeed
การเล่นเกมให้เต็มอิ่มเสียงที่ออกมาต้องกระหึ่มและสมจริงดังนั้นหูฟังที่ใช้ต้องรองรับและถ่ายทอดเสียงได้ครบทุกมิติ ขอแนะนำหูฟัง Logitech G733 Lightspeed หูฟังเกมมิ่งครอบหูไร้สายตัวเทพ มาในดีไซน์สวยงามทันสมัย สวมใส่สบายด้วยเอียร์คัปวัสดุเมมโมรีโฟมทั้งยังตัดเสียงรบกวนได้ดีอีกด้วย มีไฟ RGB จัดเต็ม ปรับแต่งสีสันและเอฟเฟ็กต์ได้ผ่านซอฟต์แวร์ G Hub สเปกด้านเสียงเทียบเท่าหูฟังตัวโปร Logitech G Pro เสียงดี เล่นเกมมันส์กระหึ่มเต็มสองรูหู จุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไรสายความเร็วสูง Lightspeed ที่มีความเสถียรและลื่นไหลไม่สะดุด มีระยะเชื่อมต่อไกลสูงสุด 20 เมตร นอกจากนี้ตัวหูฟังยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 29 ชั่วโมง เรียกว่าเป็นหูฟังที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างราบรื่น ไม่มีสายให้เกะกะ รองรับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้ครบครัน แต่ถ้าต้องการคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้นก็สามารถหา sound card ตั้งโต๊ะมาใช้งานได้ ช่วยให้เลียงที่ออกมามีคุณภาพดีขึ้น ได้มิติเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น
ราคา 4,990 บาท
ทั้งหมดนี้คือ 5 อุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหล ความเร็ว ความแรง การตอบสนองต่อการควบคุมที่ฉับไว เรียกว่ามีชุดนี้ที่บ้านก็สามารถเล่นเกมได้ทุกเกมในปัจจุบัน ตอบโจทย์เกมเมอร์ได้ทุกระดับอย่างแท้จริง อุปกรณ์ทั้ง 5 อย่างนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อทีเดียวพร้อมกันก็ได้ ค่อยๆ เพิ่มทีลชิ้นจนครบ รับรองว่าใช้งานได้อีกยาว 3 – 5 ปี เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ใช้งานได้ทั้งการเล่นเกมและการทำงาน
