รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คูปองบริโภคเพื่อฟื้นฟูชีพ” (Livelihood Recovery Consumption Coupons) รอบที่ 2 แล้วในวันนี้ ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญที่มุ่งช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนและกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับรากหญ้า โดยโครงการนี้จะมอบเงินสดมูลค่า 100,000 วอน (ประมาณ 2,600 บาท) ให้แก่ประชาชนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์รายได้ ซึ่งครอบคลุมประชากรเกือบ 90% ของประเทศ
บรรยากาศการลงทะเบียนในวันแรกเป็นไปอย่างคึกคักทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยรัฐบาลได้วางมาตรการจำกัดวันลงทะเบียนในสัปดาห์แรกตามเลขท้ายปีเกิด เพื่อลดความแออัด สำหรับวันนี้ (วันจันทร์) จะเปิดให้ผู้ที่มีเลขท้ายปีเกิดลงท้ายด้วยเลข 1 และ 6 ลงทะเบียนก่อน ประชาชนสามารถเลือกรับเงินได้หลายช่องทาง ทั้งการเติมเงินเข้าบัตรเครดิต/เดบิต, บัตรของขวัญท้องถิ่น หรือบัตรเติมเงิน โดยเงินช่วยเหลือทั้งหมดจะต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
โครงการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางเป็นหลัก โดยใช้ฐานข้อมูลการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก และจะตัดสิทธิ์กลุ่มผู้มีรายได้สูง, ผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าเกิน 1.2 พันล้านวอน หรือผู้ที่มีรายได้จากการลงทุนเกิน 20 ล้านวอนต่อปีออกไป โครงการนี้ยังครอบคลุมถึงผู้พำนักถาวร, คู่สมรสชาวต่างชาติ และผู้ลี้ภัยที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพของเกาหลีใต้ด้วย
ที่มาของโครงการ
โครงการคูปองกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการลักษณะนี้มาตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับโครงการรอบที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลเห็นว่าเศรษฐกิจยังคงต้องการแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบผ่านการบริโภคโดยตรงจึงเป็นแนวทางที่รัฐบาลเลือกใช้เพื่อช่วยทั้งประชาชนและธุรกิจขนาดเล็กไปพร้อมกัน
เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับท้องถิ่นและช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยคูปองที่ได้รับจะไม่สามารถนำไปใช้กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ หรือร้านค้าออนไลน์ได้ แต่จะจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะกับร้านค้าท้องถิ่น, ตลาดสด, ร้านอาหาร และธุรกิจบริการขนาดเล็กที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 3 พันล้านวอนเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าเงินช่วยเหลือจะกระจายไปสู่เศรษฐกิจระดับชุมชนอย่างแท้จริง