วันที่ 13 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 12.30 น. รายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ว่า ชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 275 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเอธิโอเปีย และชาติอื่น ๆ จากทวีปแอฟริกา ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มกะเหรี่ยง DKBA พื้นที่จีนเทา ไท่ซาง 1 จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้รวมตัวประท้วงพยายามออกจากพื้นที่ควบคุม บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเมยฝั่งประเทศเมียนมา ขอข้ามแดนเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อเดินทางกลับประเทศตน หลังรอการประสานจากสถานทูตนานกว่า 2 เดือน
สถานการณ์ตึงเครียดจนเกือบเกิดการปะทะกับฝ่ายทหารกะเหรี่ยง DKBA โดยมีการโต้เถียงและใช้อาวุธข่มขู่
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารไทยจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ,ร่วมกับฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ ได้ตรึงกำลังแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน พร้อมทั้งเร่งประสานงานกับทุกส่วน
โดยย้ำว่าว่าเรามีกระบวนการส่งกลับที่ชัดเจนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ส่งกลับไปแล้วกว่า 8 พันคน ดังนั้นถ้าหากคนต่างชาติคนใด ไม่เข้ากระบวนการส่งกลับ แล้วลักลอบข้ามแดนมา ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนกระบวนการที่ล่าช้า ไม่ได้เกิดจากฝ่ายไทย แต่เกิดจากประเทศต้นทางของชาตินั้นๆ ไม่พร้อมมารับตัว
โดยปัจจุบันสามารถพูดคุยและเจรจากับกลุ่มบุคคลต่างชาติดังกล่าวได้ โดยทาง กกล.DKBA รับปากว่าจะส่งตัวชาวต่างชาติทั้งหมด 275 คน ให้กับทางการเมียนมาที่ จังหวัดเมียวดี ในวันที่ 18 เม.ย.เพื่อเข้าสู่กระบวนการส่งกลับต่อไป
ส่วนกระบวนการที่ล่าช้า สืบเนื่องจากประเทศต้นทางของคนต่างชาติ กลุ่มดังกล่าวไม่พร้อมมารับตัว ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ไม่ได้นิ่งนอนใจได้หาทางช่วยแก้ไขปัญหามาโดยตลอด