คัดลอก URL แล้ว
เปิดเส้นทางทนายตั้ม: ทนายประชาชนสู่คดีฉาวแห่งปี

เปิดเส้นทางทนายตั้ม: ทนายประชาชนสู่คดีฉาวแห่งปี

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ทนายตั้ม” เป็นหนึ่งในทนายความชื่อดังของประเทศไทยที่มักจะให้ความช่วยเหลือในคดีต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับลูกความ ทนายตั้มเป็นที่รู้จักในฐานะทนายที่มีจุดยืนและชัดเจนในการปกป้องสิทธิของผู้ที่ต้องการความยุติธรรม

ประวัติทนายตั้ม

ในปี 2559 เขาและทีมงานได้ก่อตั้งมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มีพันธกิจเพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้กฎหมายและมีจิตสำนึกที่ดีในสังคม รวมถึงเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ์และต้องการความช่วยเหลือด้านกฎหมาย

ผลงานที่ทำให้เป็นที่รู้จัก

ทนายตั้มเคยมีบทบาทสำคัญในคดีหลายคดีที่เป็นข่าวดังในประเทศไทย เช่น คดีน้องจีโน่ที่ถูกวัยรุ่นใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผา คดีสองสามีภรรยาที่ถูกกล่าวหาว่าถูกตำรวจยัดข้อหายาเสพติด รวมถึงคดีหวย 30 ล้าน ที่เขาได้ช่วยเหลือ ร.ต.ท.จรูญ ต่อสู้ในชั้นศาล และคดีน้องชมพู่ซึ่งเป็นคดีที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ เขายังเคยเข้าไปมีบทบาทในการสืบสวนการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา แม้ว่าสุดท้ายจะต้องออกจากคดี แต่ทนายตั้มยังคงยืนยันจะค้นหาความจริงต่อไป

ล่าสุด ทนายตั้มยังคงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนในกรณีคดีฉ้อโกงเงินที่เกี่ยวข้องกับเจ๊อ้อย คดีนี้เป็นหนึ่งในคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปี 2567


ไทม์ไลน์คดีทนายตั้ม-เจ๊อ้อย: ข้อพิพาท 71 ล้านบาทที่เขย่าวงการกฎหมายไทย

คดีระหว่างทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” และนางจตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ๊อ้อยกล่าวหาทนายตั้มว่ามีส่วนพัวพันกับการฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท รวมถึงการฟอกเงินและการใช้เงินในธุรกิจที่มีความซับซ้อน โดยคดีนี้ได้กลายเป็นที่สนใจของสังคม เนื่องจากมีทั้งความซับซ้อนทางการเงินและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ

ไทม์ไลน์เหตุการณ์สำคัญในคดี

ความคืบหน้าล่าสุด

คดีนี้มีความซับซ้อนทางธุรกรรมการเงิน ทำให้ต้องอาศัยการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด เจ๊อ้อยกล่าวหาว่าทนายตั้มมีส่วนในการโอนเงินไปยังบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องและการใช้เงินในทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ทนายตั้มปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเงินดังกล่าวเป็นการให้โดยเสน่หาเพื่อลงทุนร่วมกัน

บทเรียนและข้อคิดจากคดีนี้

คดีทนายตั้ม-เจ๊อ้อยสะท้อนถึงความซับซ้อนของการลงทุนในยุคดิจิทัล และการจัดการทางการเงินที่อาจกลายเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตได้ การพิจารณาความโปร่งใสและการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกรรมเพื่อป้องกันการหลอกลวง

เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นที่สนใจจากประชาชน ขณะที่กระบวนการยุติธรรมยังดำเนินต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง