สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ หรือ NIS ได้แถลงข่าวเมื่อวานที่ผ่านมา ( 18 ต.ค. 67) โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมถึงวันที่ 13 ตุลาคม เรือระบายพลและเรือคุ้มกัน 7 ลำของกองเรือแปซิฟิกรัสเซีย ได้ขนส่งทหารหน่วยพิเศษเกาหลีเหนือประมาณ 1,500 นาย จากพื้นที่ใกล้เมืองชองจิน ฮัมฮึง และมูซูดัน ไปยังเมืองวลาดิวอสตอกของรัสเซียในการขนส่งรอบแรก และคาดว่าจะมีการขนส่งรอบที่สองในเร็วๆ นี้
สำหรับกองเรือรัสเซียที่เดินทางเข้ามายังน่านน้ำของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 ต่างจากเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศรัสเซียเช่น AN-124 ที่บินไปมาระหว่างวลาดิวอสตอกและเปียงยางอย่างสม่ำเสมอ
ทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซียถูกกระจายไปตามฐานทัพรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกไกล เช่น วลาดิวอสตอก อุสสุรีสค์ ฮาบารอฟสค์ และบลาโกเวชเชนสค์ และคาดว่าจะถูกส่งเข้าแนวรบหลังจากผ่านการฝึกปรับตัว
ทหารเกาหลีเหนือที่เดินทางไปยังรัสเซียจะได้รับเครื่องแบบ อาวุธ และเอกสารต่าง ๆ ที่ระบุว่า เป็นชาวยาคุต (Yakuts) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักที่อาศัยในเขตยาคูเตีย หรือเป็นชาวบูเรียเตีย หนึ่งในเขตการปกครองรูปแบบสาธารณรัฐของประเทศรัสเซีย ซึ่งมีหน้าตาคล้ายชาวเกาหลีเหนือ เพื่อปลอมตัวเป็นทหารรัสเซียและปกปิดการเข้าร่วมรบ
รายงานระบุว่า ทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปยังรัสเซียเกิดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น และอาจจะมีประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งนี้ด้วย ซึ่งยังส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและชาติตะวันตกยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกด้วย
นอกจากทหารเกาหลีเหนือแล้ว สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ หรือ NIS ได้รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เกาหลีเหนือได้ส่งอาวุธสังหารให้รัสเซียกว่า 70 ครั้ง รวมปริมาณกว่า 13,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ประกอบด้วยกระสุนปืนใหญ่ ขีปนาวุธ และจรวดต่อต้านรถถัง
จากการตรวจสอบอาวุธเกาหลีเหนือที่กรมข่าวกรองกลาโหมยูเครนเก็บได้จากสนามรบ พบว่าประกอบด้วยกระสุนปืนใหญ่ขนาด 122 มม. และ 152 มม. ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Bulsae-4 ขีปนาวุธพิสัยใกล้ KN-23 และจรวด RPG ต่อต้านรถถัง
ทำให้คาดว่า มีกระสุนปืนใหญ่ขนาด 122 มม. และ 152 มม. รวมกว่า 8 ล้านนัดที่ถูกส่งให้รัสเซีย
นอกจากนี้ รัฐบาลยูเครนเคยประกาศว่า ขีปนาวุธพิสัยใกล้ KN-23 ที่เกาหลีเหนือส่งให้รัสเซียถูกใช้โจมตีเมืองสำคัญรวมถึงกรุงเคียฟ ทำให้มีพลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจาก อาวุธเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มีอัตราการชำรุดสูงและแม่นยำต่ำ จึงถูกใช้เพื่อการรุกทางปริมาณมากกว่าการโจมตีแม่นยำ
เจ้าหน้าที่ NIS กล่าวว่า “ข้อสงสัยเรื่องความร่วมมือทางทหารโดยตรงระหว่างรัสเซีย-เกาหลีเหนือที่สื่อต่างประเทศหยิบยกมาได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว” และ “เราจะติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซีย-เกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือด้านข่าวกรองกับประเทศพันธมิตร”
ที่มา – สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้
