สังคมไร้เงินสด สำหรับการใช้จ่ายในยุค “ดิจิทัล” ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ปัจจุบันหลายคนจึงนิยมจ่ายเงินผ่าน Digital Wallet (กระเป๋าเงินดิจิทัล) แต่ทั้งนี้ก็มีความเสี่ยงเจอมิจฉาชีพออนไลน์กันได้ มารู้ทริคดีๆ เพื่อความปลอดภัยกันว่า ก่อนผูกบัตรเครดิต บัตรเดบิตกับ Digital Wallet เพื่อป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์นั้นควรทำอย่างไรบ้าง?
ข้อดีของ Digital Wallet
· ใช้ง่าย สะดวกสบายมากกว่าเงินสด เพราะแค่สัมผัสสมาร์ทโฟนค่าใช้จ่ายทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไม่เท่านั้น! ทุกครั้งที่ใช้จ่ายด้วย Digital Wallet ผู้ใช้จะได้โปรโมชันปัง ๆ จากผู้ให้บริการ เช่น Cashback คะแนนสะสม ส่วนลดสินค้า ฯลฯ
· ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าเงินจะหล่นหาย หรือกังวลว่าจะมีใครเข้ามาใช้ Digital Wallet ของเรา เพราะการเข้าถึงระบบของเงินดิจิทัล ต้องมีรหัสผ่านที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เช่น การสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าที่ผู้ใช้ต้องยืนยันว่าคือตัวจริงก่อนการทำธุรกรรมทางการเงินทุกครั้ง นอกจากนี้ระบบ Blockchain ยังช่วยสร้างความปลอดภัย และความโปร่งใสในการจัดเก็บดูแลข้อมูล
· เชื่อมโยงทุกบัตร จัดการได้ทุกใบ ไม่ว่าจะมีบัตรเอทีเอ็มกี่ใบ มีบัตรเครดิตกี่เจ้า ข้อมูลของบัตรทุกใบสามารถเชื่อมต่อเข้าแอปพลิเคชันได้ทันที ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถจัดการและวางแผนการใช้เงินได้ง่าย ๆ บนมือถือ เพราะ Digital Wallet มักมาพร้อมกับเครื่องมือจัดสรรงบประมาณที่แสดงประวัติการทำธุรกรรมการเงินอย่างละเอียด
ข้อจำกัดของ Digital Wallet
ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึง Digital Wallet ได้ทุกคน แม้ว่าเงินดิจิทัลจะมีข้อดีมากมายเพียงใดแต่พื้นฐานการใช้คือต้องมีสมาร์ทโฟนไว้รองรับ คงต้องยอมรับว่าคนไทยไม่สามารถเข้าถึงมือถือได้ทุกคน
เรื่องควรรู้ ก่อนผูกบัตรเครดิต และบัตรเดบิตกับ Digital Wallet เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ
· ช้อปปิ้งผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ
ก่อนจะช้อปปิ้งออนไลน์ การดู URL คือสิ่งสำคัญ เว็บไซต์ที่ปลอดภัยจะขึ้นต้นด้วย https:// และหากมีไอคอนที่เป็นรูปกุญแจอยู่ด้วย แสดงว่าเว็บไซต์นั้นมีการเชื่อมต่อแบบ Secure Sockets Layer (SSL) หรือ TLS (Transport Layer Security) คือเทคโนโลยีใหม่ในการเข้ารหัสข้อมูล เพิ่มความปลอดภัยในการส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถป้องกันการเข้าถึงข้อมูลจากแฮ็กเกอร์ได้
· เก็บรักษาบัตรเครดิต และบัตรเดบิตให้ปลอดภัย
เก็บไว้ในที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการโดนขโมยหรือการตกหล่น ดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ อย่าวางบัตรไว้ใกล้วัตถุที่เป็นแม่เหล็ก
· เพิ่มการป้องกันด้วยขั้นตอนยืนยันตัวตน 2 ขั้น (2FA)
ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบล็อกสองชั้น คือ 1.) มีการใส่รหัสผ่าน 2.) มีการยืนยันตัวตน
· ติดตามยอดการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ
การช้อปปิ้งออนไลน์ควรตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปเสมอ รวมถึงควรเก็บหลักฐานการใช้จ่ายไว้ทุกครั้ง
· ใช้รหัสผ่านที่คาดเดายาก หมั่นเปลี่ยนพาสเวิร์ดบ่อย ๆ
รหัสผ่านไม่ควรเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่านควรตั้งแบบที่คาดเดายาก โดยควรเปลี่ยนรหัสทุก 3 เดือนและห้ามใช้รหัสผ่านเหมือนกันทุกแอปพลิเคชัน
· อายัดบัตรทันทีที่ทำบัตรหล่นหาย
หากทำบัตรหาย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การแจ้งอายัดบัตรเครดิต และบัตรเดบิต เพื่อให้มั่นใจว่าบัตรที่หล่นหายจะไม่ถูกใช้โดยผู้อื่น
· ระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัว
ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ หรือแสดงให้เห็นว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารไหน
· อัปเดตข้อมูลบัญชีให้เป็นปัจจุบัน
การอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันอยู่ตลอด ถือเป็นการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ เพราะระบบป้องกันภัยที่เป็นของเก่าไม่ปลอดภัยเท่าเวอร์ชันปัจจุบัน
การผูกบัตรเครดิตกับ Digital Wallet แม้จะทำให้สะดวกสบาย ไม่ต้องพกบัตรมากมาย ชำระเงินได้รวดเร็วและง่ายดาย เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชันบนมือถือ แต่ควรใช้อย่างมีสติและระมัดระวัง เพื่อให้สามารถใช้งานอย่างสะดวกและปลอดภัย
ขอบคุณที่มา : fintips by ttb