นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยแสดงความเห็น หลังมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยนายอดิศร บอกว่า มีความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติและกลั่นกรองมาอย่างดี ประกอบกับทุกพรรคการเมืองก็มีการผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมาอย่างเข้มงวด หลังจากนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และทำงานตามที่ได้วางแผนไว้อย่างเต็มที่
ส่วนกรณีที่มีคนเปรียบเทียบว่า ครม. ชุดปัจจุบัน เป็นเหมือน ครม. ชุดฝึกงาน นายอดิศร มองว่า คงไม่สามารถห้ามคนที่มองในลักษณะนี้ได้ ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนใน ครม. ชุดปัจจุบัน ก็เห็นว่า ควรจะมีการเปิดโอกาสให้ทำงานเพื่อผลักดันประเทศจะดีกว่า
ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่มีคนบางกลุ่มมองว่า รัฐมนตรีบางคนในครม. ชุดปัจจุบัน เป็นเหมือนตัวแทนของรัฐมนตรีบางคน เรื่องนี้ นายอดิศร มองว่า ไม่เกี่ยวกับลักษณะของการเป็นตัวแทน เพราะผู้ที่เข้ามาใหม่ใน ครม.ชุดปัจจุบัน ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เช่น บุตรสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มาเป็นรัฐมนตรีช่วยแทนที่นายชาดา ก็เป็นคนที่มีการศึกษาดีและจบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ แล้วยังมีอีกหลายคน ที่มีบิดาเป็น สส. และบุตรก็อยากมาเป็น สส. การจะมองว่า เป็นหุ่นเชิดนั้นอยู่ที่คนจะวิพากษ์วิจารณ์ แต่ความเป็นพ่อลูกย่อมตัดกันไม่ขาด ทุกอย่างขอให้วัดกันที่ผลงานจะดีกว่า
นายอดิศร ยังบอกว่า นางสาวแพทองธาร เป็นคนรุ่นใหม่ที่ควรเปิดโอกาสให้ทำงาน และเป็นคนหนึ่งที่รับสิ่งใหม่ๆ มาปรับใช้ในการทำงานอยู่เสมอ ส่วนอายุของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร เชื่อว่าจะอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งสอดคล้องกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้ว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันจะอยู่อย่างต่ำ 3 ปี แต่อาจจะมีเรื่องร้องเรียนมาเรื่อยๆ
ส่วนการพูดคุยกับนายสุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังหลุดจาก ครม.ชุดใหม่ นายอดิศร มองว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับนายสุทินอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดได้มีการพูดคุยในงานฉลองวันสันติภาพโลก // นายสุทินยังคงมีกำลังใจดี และพร้อมทำงานในสภาอย่างเต็มที่ในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งจะเป็นหน้าที่หลักของนายสุทิน ซึ่งเปรียบเสมือนทองคำของฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่า กรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งที่สมัยก่อนนายภูมิธรรม คือสหายที่ต้องหลบหนีเข้าป่า นายอดิศร บอกว่า ตนก็สหายเหมือนกัน ประธานวุฒิก็เป็นสหายเก่าเช่นกัน แต่เรื่องมันผ่านมาแล้วกว่า 50 ปี โดยตนเชื่อว่า นายภูมิธรรมมีคุณสมบัติในการดูแลกระทรวงกลาโหม และที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ทุกคนมาร่วมกันพัฒนาประเทศ ซึ่งพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามกลุ่มคอมมิวนิสต์ มันได้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งในวันนี้ไม่จำเป็นต้องปลุกผีคอมมิวนิสต์ขึ้นมาอีก
ส่วนตัว ตนเชื่อมั่นในการทำงานของนายภูมิธรรมโดยย้อนอดีตว่า แต่ก่อนนอนเตียงติดกัน แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่านายภูมิธรรมจะมีวาสนาขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นจะเดินตามมานานแล้ว ย้ำว่า เชื่อมั่นในวัยวุฒิและคุณวุฒิ ที่จะทำให้กองทัพเป็นกองทัพของประชาชน
เมื่อถามว่า การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ผลัดใบแล้ว แต่หากนายอภิสิทธิ์มา ตนอาจเป็นศัตรูกัน ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ปัจจุบันนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ส่วนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ถือว่าผลัดใบ
เมื่อถามถึงกรณีนายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ พี่เคยร่วมขบวนต่อต้านและขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอดิศร บอกว่า ในความเป็นจริงเรามีข้อหมางใจในอดีตอยู่ หากยึดตามรัฐธรรมนูญ เราจะต้องจับมือกันและบังคับให้เราทั้งสองฝ่ายต้องอยู่ด้วยกัน เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว นายเอกณัฏที่เป็นบุตรชายของ นางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน เมื่อคบกันก็นิสัยดี ส่วน ปัญหาทางการเมืองที่ติดค้างกันก็ว่ากันตามกฎหมาย แต่เรื่องของรัฐบาลผสมในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะทำงานได้ถึงระยะเวลา 3 ปี และเชื่อว่าเมื่อเลือกตั้งใหม่ก็จะได้เลือกกลับมาทำงาน ยืนยันพร้อมทำงานร่วมกันได้
นายอดิศร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ให้โอกาสคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะได้โอกาสในการทำงาน ซึ่งขณะนี้แม้จะยังไม่ได้เริ่มทำงานแต่ก็ถูกร้องไปหลายคดีแล้ว พร้อมขอให้สังคมคอยดูว่า นายกรัฐมนตรีเป็นอิสระจากการนำพาจากข้อครหาหรือไม่
ส่วนเรื่องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะที่ไปร้องให้ตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายอดิศร กล่าวว่าตนได้ลบชื่อบุคคลดังกล่าวออกจากโทรศัพท์แล้ว เพราะคนไหนที่ทำงานทำลายคนอื่นเห็นอะไรก็ร้องไปหมด ตนมองว่า ไม่ควรที่จะอยู่ในสังคมการเมือง