ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศญี่ปุ่นกำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบมากขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานของ Kyodo News ที่ได้ทำการสำรวจร้านสะดวกซื้อรายใหญ่จำนวน 7 ราย พบว่า
ร้านสะดวกซื้อราว 6,000 แห่ง หรือคิดเป็น 12% ของร้านสะดวกซื้อราว 55,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการที่สั้นลง ในขณะที่บางแห่งเลือกใช้เครื่องเก็บเงินสดแบบไร้พนักงานเข้ามาแทนที่
สำหรับร้านสะดวกซื้อชั้นนำ 3 แห่ง คือ Seven-Eleven Japan, Lawson และ FamilyMart นั้นได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า อยู่ที่ 8-10% ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการให้บริการ
ในขณะที่ Seicomart ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ในฮอกไกโด มีจำนวนของร้านค้าที่จะต้องลดเวลาในการให้บริการลงสูงที่สุด ราว 87% ในขณะที่ Poplar Co มีจำนวนร้านค้าที่ต้องการปรับลดเวลาให้บริการลงราว 79% ของสาขาที่มีทั้งหมด
ว่างงานลดลง
ด้านกระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นระบุว่า อัตราการว่างงานลดลงเหลือราว 2.3 ล้านคนอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งตัวเลขของคนในวัยแรงงาน ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ที่ยังคงว่างงานและอยู่ในระหว่างการหางานอยู่นั้น คิดเป็น 3.7% ของประชากรในวัยแรงงานทั้งหมด เมื่อเทียบกับปี 2003 ที่มีวัยแรงงานที่ว่างงานอยู่ถึง 8%
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ประชากรในวัยทำงานของญี่ปุ่นมีอัตราการว่างงานลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อน นอกจากนี้ อัตราค่าจ้างรายชั่วโมงของพนักงานพาร์ทไทม์ก็เพิ่มสูงขึ้น 3.8%
รายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังพบว่า กลุ่มวัยแรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 15-64 ปี มีจำนวนลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับช่วงพีคที่สุดในระหว่างปี 1995-2023 ซึ่งจากตัวเลขต่าง ๆ ทำให้เห็นแนวโน้มของคนในวัยแรงงานในตลาดแรงงานที่จะไม่สามารถชดเชยจำนวนแรงงานที่ลดลงจากแรงงานในกลุ่มผู้หญิง หรือ ผู้สูงอายุได้
ชาวญี่ปุ่นบางส่วนเห็นต่างออกไป
ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศญี่ปุ่นมีเพิ่มมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อการให้บริการของร้านสะดวกซื้อในขณะนี้ ชาวญี่ปุ่นบางส่วนมองว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด บางสาขาที่ขาดแรงงานเป็นผลกระทบมาจากอัตราค่าจ้างที่ไม่มากนัก แต่กลับต้องเผชิญลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติมากขึ้น และกลายเป็นปัญหาด้านการให้บริการ ทำให้หลายคนเลือกที่จะไปทำงานอย่างอื่นแทน
ในขณะที่บางส่วนมองว่า ในบางพื้นที่นั้น การเปิดร้านตลาด 24 ชั่วโมงในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีลูกค้าและนำไปสู่การประกาศปิดการให้บริการในบางช่วงเวลานั้น เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจมากกว่าปัญหาด้านแรงงาน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากยิ่งขึ้น
