สถานการณ์ในตะวันออกกลางกลับมาร้อนระอุอีกครั้งหนึ่งเมื่ออิหร่านเปิดฉากโจมตีไปยังอิสราเอลด้วยโดรนมากกว่า 200 ลำ โดยอิหร่านระบุว่า เป็นการตอบโต้ต่ออิสราเอลที่ได้มีการโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียของอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 13 รายด้วยกัน
ซึ่งอิหร่านยังได้เตือนไปยังอิสราเอลว่า หากอิสราเอลยังคงตอบโต้กลับมา ก็จะเผชิญกับมาตรการที่รุนแรงขึ้น และอิสราเอลไม่ควรทำผิดซ้ำอีกครั้งที่โจมตีอิหร่าน
กองทัพอิหร่านได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ในประเทศอิหร่านภายหลังจากที่ได้มีการเปิดฉากโจมตีไปยังอิสราเอลว่า ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากสหรัฐฯ และ ไซออนิสต์จากประเทศใดก็ตามจะได้รับการตอบสนองเท่ากับที่กระทำกับอิหร่าน
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลทันทีและให้รายละเอียดสั้น ๆ ว่า การโจมตีของอิหร่านนั้นถือเป็นการยกระดับที่รุนแรงและอันตราย
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางการอิหร่านระบุว่า มีความเสียหายไม่มากนัก และส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ และอิสราเอลพร้อมปฏิบัติการอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
สหรัฐฯ ออกสนับสนุนอิสราเอลตามคาด
ภายหลังจากการโจมตีของอิหร่านไปยังอิสราเอล ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนอิสราเอล โดยรัฐสภาสหรัฐฯ หลายคนได้ร่วมกันประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น ของอิหร่าน
ทางด้านของนายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ออกมาร่วมกันประณามการกระทำของอิหร่านในครั้งนี้เช่นกัน โดยระบุว่า อิหร่านกำลังเพิกเฉยต่อแนวทางสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนอิสราเอลในการป้องกันการโจมตีที่เกิดขึ้น
เลขาธิการสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ “ประณามอย่างรุนแรง” ต่อการโจมตีในครั้งนี้ว่า เป็นการยกระดับที่รุนแรง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการสู้รบที่เกิดขึ้น และไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใดหรือโลกนี้ก็ตาม ก็ไม่ควรมีสงครามเกิดขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ที่จะส่งผลให้มีการยกระดับปฏิบัติการทางทหาร และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งช่างใจเพื่อเลี่ยงอันตรายจากสงครามที่อาจจะปะทุรุนแรงมากยิ่งขึ้น
อิสราเอลขอเรียกประชุมฉุกเฉิน
อกอัครราชทูตอิสราเอลประจําสหประชาชาติได้ทำหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้มีการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการโจมตีของอิหร่านที่ทำต่ออิสราเอล อ้างว่า การกระทำที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก
ด้านอิหร่านได้อ้างถึงมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นต่ออิสราเองนั้นเป็นความชอบธรรม ซึ่งได้อ้างถึงการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า อิสราเอลได้โจมตีต่อสถานกงสุลของกรุงเตหะรานในกรุงดามัสกัส และนั่นถือเป็นการโจมตีโดยตรงต่ออธิปไตยของอิหร่าน ซึ่งอิหร่านจึงมีความจำเป็นต่อการปกป้องประชาชนและอธิปไตยจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้น
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะจัดการประชุมฉุกเฉินในบ่ายวันอาทิตย์นี้ (ตามเวลาในสหรัฐฯ)
หลายฝ่ายกังวลสถานการณ์บานปลาย
หลายฝ่ายได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากในขณะนี้ ความตึงเครียดในภูมิภาคกำลังอยู่ในระดับที่สูงที่สุด ภายหลังจากที่อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความอึมครึมมาโดยตลอด และการเปิดฉากโจมตีของอิหร่าน กำลังทำให้สงครามต่ออิสราเอลนั้น มีโอาสขยายตัวและยกระดับได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น สิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังจับตามองในขณะนี้คือ มาตรการตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่าน ซึ่งจะส่งผลต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน