ผลสำรวจพบ คู่สมรสชาวญี่ปุ่นเกือบครึ่ง “ไม่มีเซ็กส์” เหตุ ทำงานเหนื่อย!

ผลสำรวจล่าสุดจากสมาคมวางแผนครอบครัวญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตคู่ของคนญี่ปุ่น โดยพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของคู่สมรสไม่ได้มีกิจกรรมทางเพศ หรือ “sexless” ซึ่งหมายถึงไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันมาเป็นเวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้น

โดยในการสำรวจที่มีการเผยแพร่ออกมาในครั้งนี้นับเป็นการสำรวจเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่การสำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2545 โดยได้ทำการสอบถามกลุ่มเป้าหมายชายและหญิงที่สุ่มตัวอย่าง 3,000 คนที่มีอายุระหว่าง 16-49 ปี ทางไปรษณีย์และทางออนไลน์ โดยมีอัตราการตอบกลับที่ถูกต้องที่ 26.6%

ผลการสำรวจพบว่า 48.3% ของคู่สมรส “ไม่มีเพศสัมพันธ์” เพิ่มขึ้น 1.1 เปอร์เซ็นต์จากการสํารวจครั้งก่อนในปี 2559 แนวโน้มของคู่รักที่ไม่มีเพศสัมพันธ์กันนั้นมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี 2004 เมื่ออยู่ที่ 31.9% ซึ่งฝ่ายชายราว 80% ระบุว่า ยังคงมีความสนใจในการประกอบกิจกรรมทางเพศอยู่ ในขณะที่ฝ่ายหญิงราว 40% ตอบว่า ไม่มีความสนใจที่จะประกอบกิจกรรมทางเพศแต่อย่างใด

ผลสำรวจยังพบว่า คู่รักทั้งที่แต่งงานกันแล้ว และยังไม่ได้แต่งงานกัน มีแนวโน้มใกล้เคียงกันคือ 49.2% ไม่ได้เพศสัมพันธ์กัน และมี 13.9% ของคู่รักที่ระบุว่า มีเพศสัมพันธ์กันเดือนละครั้งเดียวเท่านั้น

เมื่อสอบถามถึงเหตุผลของการไม่มีเพศสัมพันธ์ของคู่สมรสนั้น ทางด้านของฝ่ายชายระบุว่า 24.0% มีสาเหตุจากที่ฝ่ายภรรยาไม่ตอบรับกิจกรรมทางเพศ, 14.7% ระบุว่า กังวลเรื่องความยากลำบากหลังคลอดบุตร และ 12.0% มองว่า การมีเพศสัมพันธ์กันนั้นเป็นเรื่องที่รบกวนกันมากเกินไป

ทางด้านของฝ่ายหญิงให้เหตุผลของการไม่มีเพศสัมพันธ์กันว่า เป็นเรื่องที่รบกวนกันมากเกินไปมากที่สุด (22.6%) , 20.8% ระบุว่า เหนื่อยล้าจากการทำงาน และ 13.2% กังวลในเรื่องของการตั้งครรภ์/หลังคลอด

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ส่งผลกระทบต่อประเทศญี่ปุ่นได้ในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ที่ลดลงย่อมส่งผลกระทบต่อการมีบุตร ท่ามกลางปัญหาของจำนวนประชากรที่ลดลง และนำไปสู่ปัญหาแรงงานในประเทศที่จะลดลง