ประธานาธิบดี “วลาดิเมียร์ ปูติน” ของรัสเซีย แถลงการณ์ประณามการก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์จัดแสดงคอนเสิร์ต “โครคลัส” ในกรุงมอสโก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจรัสเซียจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุได้ 4 คน ซึ่งทั้งหมดกำลังหลบหนีไปยังยูเครน และก่อนหน้านี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงกับการก่อเหตุดังกล่าวเอาไว้ได้อีก 11 คน เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดในระยะเวลาเกือบ 20 ปี และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรัสเซียพุ่งถึง 143 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 140 คน

หลังเกิดเหตุ กลุ่มก่อการร้าย “ไอซิส” (ISIS) ออกแถลงการณ์พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้ คือพวกเขาเอง ซึ่งฝั่งสำนักข่าวกรองสหรัฐฯ หรือ “CIA” ยืนยันว่า ตรวจสอบแล้วกลุ่มนี้ได้ก่อเหตุจริง

ขณะเดียวกันผู้นำรัสเซีย ยืนยันว่า รัสเซียจะดำเนินการ “ตอบโต้กลับอย่างสาสม” กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ และผู้ลงมือที่ถูกจับได้ทั้งหมด จะได้รับโทษอย่างสาสม

ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า มือปืนพยายามหนีไปยังยูเครนนั้น ทำให้เชื่อว่า “ยูเครน” อาจมีส่วนรู้เห็นต่อการก่อเหตุในครั้งนี้

ด้านฝั่งยูเครน ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที โดยทางประธานาธิบดี “โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี” ออกมาตอบโต้ผู้นำรัสเซียว่ามีความคิด “ไร้สาระ” ที่พยายามเอายูเครนมาเชื่อมโยงกับการก่อเหตุ และยืนยันว่ายูเครน ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นการก่อเหตุนี้แต่อย่างใด