มาตามนัด “นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร และ นายสนธิญา สวัสดี” ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง 44 สส. พรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่โทษความผิดจะกระทบถึงตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตหรือไม่ อาจอยู่ที่ตัวบทกฎหมาย และการพิจารณาของ ป.ป.ช.
สส. 44 คน สังกัดพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ถูกนำมาซึ่งการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อให้ตรวจสอบ และเอาผิดในข้อหาผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
วันนี้นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร และนายสนธิญา สวัสดี เข้ายื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่มีข้อสังเกตตรงกันคือทั้ง 2 คน ต้องการให้ตรวจสอบ และเอาผิดจริยธรรม 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
แต่มีจุดต่างกัน คือนายธีรยุทธ ยืนยัน ไม่ได้มุ่งหวังให้เอาผิด ไปถึงการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต แต่ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน และตัวบทกฎหมาย
ขณะที่นายสนธิญา หวังให้ 44 คน ยุติการเมืองไปตลอดชีวิต เพราะมองว่า มีเจตนาชัดตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พร้อมติดตามเก็บหลักฐานทั้งหมด รวมถึงการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม หากมีผู้ที่ทำผิดมาตรา112 รวมอยู่ด้วย จะนำไปสู่การยื่นยุบพรรคก้าวไกลด้วย
ส่วนการตรวจสอบกรณีแต่งตั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นกรรมาธิการศึกษาการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพฯ โดยกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน หรือ ปภส. นำโดยนายทรงชัย เนียมหอม เข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ที่สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ เป็นเวลา 10 ปีหรือไม่
