เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่ห้องโถงรับแจ้งความ สน.บางเขน ขณะที่ พ.ต.ท.สมพร สะตะ สว.(สอบสวน)สน.บางเขน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้มีนายตุ้ย อายุ 45 ปี (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เดินทางมาเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ขณะนั่งรอคิวที่โซฟาติดผนังเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนกลับชีวิตด้วยท่านั่งหลังผิงกำแพงและเสา อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน มีเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล และไม่พบเอกสารใดๆติดตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้ก่อนประสานอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊งมาเก็บศพส่งไปชันสูตร นิติเวชฯรพ.ตำรวจ หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

จากการสอบถามนายวิรัช เปลี่ยนเจริญ อายุ 65 ปี เปิดเผยว่า ตนกับนายตุ้ย (ผู้ตาย) รู้จักกันมา 3 เดือน เคยทำงานเป็นช่างเคาะพ่นสี ของอู่แห่งหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 19 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีสมบัติอย่างเดียวคือจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีน้ำเงิน ทะเบียน ลงว 161 กรุงเทพมหานคร มักนอนตามริมถนน เช่นป้ายรถเมล์ ก่อนหน้านี้ขณะทำรถให้ลูกค้า วันที่ 2 ธ.ค. ผู้ตายได้บ่นกับตนว่าปวดเจ็บและจุกหน้าอก ตนสอบถามจนทราบว่าถูกลูกชายนายจ้างกับเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายไม่ทราบสาเหตุ ตนจึงบอกให้ไปแจ้งความแล้วไปหาหมอ แต่ผู้ตายไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต และทราบอีกว่าเคยถูกรุมทำร้ายลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ตนจึงหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายด้วยจึงจะลาออก ส่วนผู้ตายก็จะลาออกตาม ให้เหตุผลว่าลุงไม่อยู่ผมก็ไม่อยู่ จากนั้นจึงออกพร้อมกันในคืนนั้น ตนจึงยึดอาชีพรับจ้างขับแท็กซี่ ส่วนผู้ตายไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยทุกเช้าตนจะขับแท็กซี่ตระเวนหาเพื่อเอาข้าวไปให้วันละ 1 มื้อ กระทั่งวันนี้ประมาณ 10.00 น. ไปเจอบริเวณปากซอยเทพรักษ์ 42 ถ.เทพรักษ์ แขวงบางเขน เขตสายไหม กทม. บอกว่าจุกอกมากหายใจลำบากและมีอาการซึมผิดปกติ ตนจึงพาขึ้นรถมาส่งโรงพักเพื่อแจ้งความแล้วจะเอาเอกสารไปตรวจร่างกายโรงพยาบาล เมื่อมาถึงมีคนจำนวนมากรอแจ้งความจึงนั่งรอคิวบนโซฟา ตนเห็นค่อยๆหลับไปคิดว่าเหนื่อยไม่มีอะไร เมื่อถึงคิวพนักงานสอบสวนเรียกก็สะกิดกลับพบว่าเสียชีวิตแล้ว จากการที่รู้จีกผู้ตายมาเป็นคนดื่มสุราบ้างไม่เคยมีเรื่องกับใคร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและจะเชิญลูกชายอู่รถและพวก ตามที่พยานให้การไว้มาสอบปากคำอย่างละเอียดก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป