พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี สื่อดังในเยอรมนี ตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คนจ่ายสินบน 1 ล้านบาทแล้วหลบหนีได้ โดยระบุว่า ในฐานะที่รับผิดชอบคดีขนาดนั้น คดีนี้เกิดในพัทยาได้มีการสั่งให้จับกุมและขยายผล ซึ่งเดิมเรื่องนี้เกิดจากกรมการปกครองเข้าไปจับกุมการค้าประเวณีเด็ก พบว่ามีชาวเยอรมันสองคนเป็นผู้ใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้งสองคน ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้สภ. เมืองพัทยาดำเนินการตามกฏหมาย ควบคุมตัว ต่อมาทราบว่าศาลให้ประกันตัว ปิดไปแล้วซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือตม.ก็ได้ขึ้นแบล็คลิสต์ไว้แล้ว ว่าห้ามออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ศาลจึงอนุญาต เมื่อศาลอนุญาตก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
กรณีนี้ส่วนของตำรวจ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ เพราะถ้าตามระเบียบแล้วทันทีที่มีการจับกุมชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนต้องแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ทราบ เพราะหากประกันตัวออกมาแล้วจะต้องถูกควบคุมตัวที่ห้องขังของ ตม. ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนของสภ.พัทยา และมีการรายงานตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะทราบผล และจะแถลงข่าวในวันอังคาร ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียหาย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาชาวต่างเดินทางออกนอกประเทศแล้วจะสามารถเรียกตัวกลับมาได้หรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ระบุว่า เรื่องนี้อัยการสั่งฟ้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบ อัยการก็คัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ให้ประกันตัว และศาลอนุญาตให้ออกนอกประเทศ เขาจึงมีสิทธิ์ออกนอกประเทศ แต่ตามขั้นตอนแล้วต้องกลับมาขึ้นศาล ตำรวจทราบว่าสัปดาห์หน้ามีกำหนดการขึ้นศาล แต่หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นหมายแดง (อินเตอร์โพล)
ส่วนตำรวจถือว่าบกพร่องหรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวน ได้รายงานไปที่ สตม.หรือไม่ เพราะกรณีชาวต่างชาติถูกจับประกันตัวในชั้นโรงพักไม่ว่าจะประกันตัวในชั้นโรงพักหรือชั้นศาล ก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังของ ตม. ไม่สามารถออกไปเพ่นพ่านได้ แต่ถ้าพนักงานสอบสวนไม่รายงานการจับกุมไปที่ สตม. ทางศาลก็ไม่ทราบเรื่อง คดีนี้คล้ายกับผับจิ้นหลิง เมื่อไม่มีการแจ้งไปยังสตม. ผู้ต้องหาก็ออกมาเดินเพ่นพ่านได้
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ารับสินบน วันนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบทั้งหมดแล้วรวมถึงเส้นทางการเงินด้วยหากพบความผิดมาดำเนินคดี พร้อมยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดรายบุคคลไม่ใช่กระบวนการ เพราะเป็นเรื่องของการซื้อบริการไม่ใช่เรื่องของการค้ามนุษย์
เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่าตำรวจทำดีก็มีเยอะ แต่ทำไม่ดีก็มีเยอะ ดังนั้นต้องแยกน้ำเสียออกจากน้ำดีให้ได้ ตำรวจคนไหนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ในสถานการณ์ปัจจุบันตำรวจต้องปรับพฤติกรรม วันนี้ระบบตรวจสอบมีเยอะไม่เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ผู้กระทำผิดกลับไปอยู่เยอรมันก็ยังโพสต์ได้เลย ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ถ้าผมก็ผิดก็ต้องดำเนินคดี
#บิ๊กโจ๊ก #สั่งสอบปมสื่อเยอรมัน #สารคดีตีแผ่ขบวนการค้าประเวณีเด็ก #ข่าวโมโน #MONONEWS #MONO29