วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมหารือประเด็นการพัฒนาและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Start up
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องคิดภาพใหญ่เพื่อสู่ตลาดโลกวันนี้ถ้าทำอะไรเล็กๆ มันอยู่และสู้เขาไม่ได้ ฉะนั้นตนจึงอยากให้ทุกท่านมีความฝัน เมื่อฝันแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาทำงาน ไม่มีทางลัดอะไรที่จะเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่มีขยันหมั่นเพียรในการทำงาน ไอเดียต่างๆ ที่มีแม้จะดีขนาดไหนถ้ามัวแต่ฝันอยู่จะไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้
นายกฯ กล่าวว่า อยากจะแนะนำ 2-3 เรื่อง ในเรื่องแรกเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก มีแหล่งสตาร์ทอัพ 2 แหล่ง ซึ่งจริงๆแล้วตนอยากให้พวกท่านไปดูที่ซานฟรานซิสโก และที่อิสราเอล หรือเป็นแหล่งที่มีคนไปดูเยอะมาก บริษัทเก่าของตนเคยส่งคนไปดูมีไอเดียต่างๆเยอะ วิธีการ คือการเอาคนมาอยู่ในที่เดียวกันและทำเป็นออฟฟิศและพัฒนา เมื่อถึงเวลาก็มานำเสนอ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 นาทีไม่ต้องแนะนำชื่อ แนะนำแค่สินค้าอยากจะขายอะไร แนะนำให้จบภายใน 1 นาที ถ้าเกิน 1 นาทีเขาจะไม่ฟัง เหตุผลหลักคือมีการแข่งขันสูง มีคนอยากสตาร์ทอัพเยอะมาก มีหลากหลายไอเดียต่างๆเยอะมาก และเขาไม่ค่อยเกรงใจจะพูดตรงไปตรงมา ถ้าไอเดียคุณไม่สามารถไปได้เขาก็จะบอกทันที อาจจะบั่นทอนพอสมควร แต่เป็นวัฒนธรรมที่ตรงไปตรงมาและไม่เสียเวลาซึ่งกันและกัน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะรัฐบาล สร้างโอกาสให้ทุกท่านมีความคิดสร้างสรรค์ สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดถ้ามีไอเดียดีๆแล้วสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งบริษัทใหญ่ โดยที่เขาไม่ต้องมาสงสารและเห็นใจ และกันเศษเงินมาให้ อยากให้เขามาดูผลิตภัณฑ์จริงๆและมีความเชื่อจริงๆในผลิตภัณฑ์และสามารถทำไปในสกิลที่ใหญ่กว่าได้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหากองทุนเหล่านี้มาหรือต้องมีกองทุนที่พูดตรงไปตรงมาว่าอันนี้เวิร์คหรือไม่เวิร์ค
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้น่าเสียดายคนไทยมีคนเก่งเยอะ มีคนที่มีความหวังความฝันเยอะ แต่สำหรับประชากร 68- 69 ล้านคน แต่ไม่มียูนิคอร์น (Unicorn) ซึ่งเป็นแผลในใจที่อยากให้แก้ไขและหมดสิ้นในรัฐบาลนี้ เราต้องมียูนิคอร์นให้ได้ภายในรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าเป็นไปได้ตนจะพยายามติดต่อและให้ตัวแทนนักศึกษาไปดูงานที่ซานฟรานซิสโก หรืออิสราเอล เมื่อสามารถไปได้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าทั่วโลกทำอะไรกัน เพราะแหล่งเงินทุนทั้งหลายเงินเขามีค่าไม่ได้ผูกพันทางด้านจิตใจ เขาดูผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง หากเป็นไอเดียที่ดีเป็นเรื่องที่ดี คิดว่าเขาจะให้การสนับสนุน ดังนั้นอยากให้ไปดูบรรยากาศ ขอให้ทีมงานช่วยเตือนด้วย จะลองจัดให้ไปดูว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันนี้มาดูไอเดียเห็นแววตาทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างจริงจัง ขอขอบคุณคณาจารย์ทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ และเป็นความหวังที่จะให้เด็กทุกคน ตนเชื่อว่าภายในระยะเวลา 4 ปี ที่รัฐบาลนี้อยู่ ประเทศไทยต้องมียูนิคอร์น และหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องเป็นตัวกลางให้ทั่วโลกรู้ว่าไทยมีซอฟฟาวเวอร์อะไรบ้าง ไอเดียที่ดีจะต้องมีตลาดก่อน ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำตรงนี้ มองในมุมมองของผู้ซื้อ หากตลาดไม่มีก็ไปไม่ได้ อยากทำอะไรก็ต้องคิดก่อนว่ามีตลาดหรือไม่ อย่าฝืนตลาดเพราะถ้าฝืนตลาดจะขายไม่ได้
อย่างไรก็ตามตลอดการลงพื้นที่วันนี้.oจังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงประเด็นการย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และประเด็นความคืบหน้าหมูเถื่อน แต่อย่างใด
