#หมูเถื่อน กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปรยเสียงดังในวงหารือ ก่อนเดินทางไปประชุมเอเปค ในวงประกอบด้วยนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และพันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งรายงานความคืบหน้าคดีหมูเถื่อนว่า “รอสาวให้ถึงตัวรายใหญ่” นายกฯ จึงบอกว่า “แล้วทำไม หาตัวรายใหญ่ไม่ได้สักที”
วันต่อมา (13พ.ย.66) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เรียกประชุมด่วนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 หรือคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ ภายหลังประชุมอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้รับดำเนินคดีในของกลาง จำนวน 161 ตู้ ที่ตรวจยึดไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.-เม.ย.66 อยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี (ซึ่งพบว่ามีการสำแดงเท็จเป็นปลาและเม็ดพลาสติก) การดำเนินคดีแบ่งผู้เกี่ยวข้องเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 บริษัทชิปปิ้งนำเข้าสินค้า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับบุคคล 6 คน จาก 5 บริษัท
โดยผู้ถูกแจ้งความทั้ง 6 คนเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ถูกดำเนินคดีในฐานความผิด นำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
ล่าสุดวันนี้ (13พ.ย.66) ดีเอสไอ เตรียมดำเนินการออกหมายจับกลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชนนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมอีก 3 ราย เนื่องจากทั้งหมดนี้ได้รับว่าจ้างจากกลุ่มนายทุนให้นำเข้าซากสุกรแช่แข็งมายังราชอาณาจักรจากไทยโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ พ.ต.ต.สุริยา ยังระบุอีกว่า การสืบสวนสอบสวนพบการกระทำผิดของกลุ่มบริษัทที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการนำเข้าในลักษณะหมูเถื่อนมีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน จำนวน 2,385 ตู้ ซึ่งดีเอสไอได้ทำการแยกเป็นคดีพิเศษอีกเลขคดีหนึ่ง และอยู่ระหว่างการสืบสวน ในกลุ่มนี้ทำให้พบกับกลุ่มนายทุนที่เป็นผู้ว่าจ้างให้กลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชนนำเข้าซากสุกรแช่แข็ง และปัจจุบันนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐาน นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้รับความร่วมมือจากทางผู้แทนของกรมปศุสัตว์ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่รู้ข้อมูลเป็นอย่างดีมาให้การกับทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ถือเป็นความร่วมมือที่ได้มีการประสานกันมาอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มนายทุน พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับจำนวน 2 บริษัท จำนวน 2 คนเป็นพ่อลูกกัน ในความผิดฐานโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นและนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ผู้ต้องหาคดีนี้นัดเข้าพบพนักงานสอบสวน ไม่เกินวันพุธที่ 15 พ.ย. ทั้งนี้ ทั้งคู่ถือเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้พนักงานสอบสวนทราบได้ว่าของกลางที่ได้ยึดอายัดไว้นั้น และรวมถึงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งดีเอสไอได้ไปตรวจค้นที่ห้องเย็นแห่งหนึ่ง ภายใน จ.สมุทรสาคร และได้อายัดเนื้อหมูแช่แข็งไว้อีก 75 ตัน ก็จะใช้สำหรับสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ด้วยว่าใครเป็นเจ้าของเนื้อหมูทั้งหมด เพราะทั้งคู่ก็เป็นเจ้าของเนื้อหมูบางส่วนที่นำไปฝากไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว
ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือ “กลุ่มห้องเย็น” ที่กระจายหมูเถื่อนตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศกลุ่มนี้ พบ DSI เข้าตรวจค้นหลายจุด ล่าสุดจัดชุดสืบสวน ออกไปตรวจสอบ ทั้งที่ ย่านดอนเมือง และบริษัทห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาคร
ทีมข่าว MONO NEWS ติดตามปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาอย่างต่อเนื่อง พบว่า ต้นทางการนำเข้าหมูเถื่อนมาจากแถบประเทศยุโรป ก่อนหน้านี้ นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งข้อสังเกตุว่า
“น่าแปลกใจที่การจับยึดหมูเถื่อนในช่วงที่ผ่านๆมา ไม่เคยมีการเปิดเผยให้ทราบถึงต้นตอของผู้ลักลอบนำเข้ามาเลย ทำให้ขบวนการลักลอบนำเข้ายังคงลอยนวล ซึ่งหมูเถื่อนที่นำเข้ามา โดยเฉพาะจากประเทศในยุโรป เป็นหมูหมดอายุ เรียกว่าเป็นขยะของประเทศต้นทาง และปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง ที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ ทางภาครัฐ ทั้งกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร จึงต้องร่วมกันกวาดล้างหมูเถื่อนให้สิ้นซากถึงต้นตอ” นายสิทธิพันธ์ กล่าว
นายสิทธิพันธ์ ระบุต่อว่า แม้ภาครัฐจะมีผลการจับกุมให้เห็น แต่อยากให้กรมศุลกากรจริงจังกับการตรวจจับหมูเถื่อนมากขึ้น มากกว่าที่จะรอให้เกษตรกรร้องขอจึงตรวจจับ โดยเฉพาะที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ทันสมัย ทำไมจึงไม่เคยตรวจจับหมูเถื่อนที่ปนมากับสินค้าอื่นได้เลย
ติดตามเจาะลึกประเด็น “หมูเถื่อน” ชมคลิป เจาะเส้นทางหมูเถื่อน ทะลักเข้าไทย
ตอนที่ 2 เสียหาย 5 หมื่นล้าน “หมูเถื่อน” ทะลักไทย (ตอน 2)
ตอนที่ 3 คนกินเสี่ยงตาย! “หมูขยะ” ติดโรค
#หมูเถื่อน #อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ #ดีเอสไอ #DSI #ข่าวโมโน #MONONEWS #MONO29