สถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอล และกลุ่มฮามาสยังคงมีการโจมตีกันอยู่ทั้งสองฝ่าย โดยเมื่อวานที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้เปิดแนวรุกทางตอนกลางของฉนวนกาซา ที่อยู่ติดกับทางทิศใต้ของเมืองกาซาซิตี้ พร้อมทั้งสามารถยึดพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ ทำให้จะต้องจับการบุกของอิสราเอลหลังจากนี้ว่า จะสร้าง “เขตสงครามเต็มรูปแบบ” ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เพื่อเปิดการรุกทางภาคพื้นดินที่ใหญ่กว่าหรือไม่
…
อิสราเอลเดินหน้ารุกคืบฉนวนกาซา
ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมากองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีต่อฉนวนกาซา โดยเน้นที่พื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเป็นหลักเหมือนเช่นวันก่อนหน้า ทั้งการโจมตีทางอากาศ ปืนใหญ่ และภาคพื้นดิน
โดยจุดที่มีความคืบหน้าในการรุกและเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเป็นบริเวณทางตอนใต้ของเมืองกาซาซิตี้ ที่เป็นการเปิดแนวด้วยรถถังทะลวงเข้าไปยังพื้นที่ และพยายามยึดครองพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพอิสราเอล
สิ่งที่น่าสนใจในการรุกคืบของอิสราเอลในแนวนี้ หลายฝ่ายตั้งของสังเกตุว่า นี่จะเป็นยุทธวิธีการจำกัดพื้นที่ของอิสราเอลหรือไม่ ที่จะเปิดแนวรุกด้านใต้เมืองกาซาซิตี้ และสร้างแนวเขตแบ่งพื้นที่ฉนวนกาซาออกเป็น 2 ส่วน เพื่อกำหนดให้พื้นที่ทางตอนเหนือสุดของฉนวนกาซาให้เป็น “เขตสงคราม”
ซึ่งความเป็นไปได้ในการสร้างเขตสงครามของอิสราเอลมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมามีการโปรยใบปลิวที่มีข้อความแจ้งเตือนให้ชาวปาเลสไตน์ที่ไม่เกี่ยวข้อง อพยพออกจาก “พื้นที่สงคราม” เพื่อความปลอดภัย
ดังนั้น หากอิสราเอลสามารถแบ่งแนวเหนือ-ใต้ของฉนวนกาซาออกจากกัน และประกาศเขตสงคราม นั่นจะย่อมหมายถึงการส่งทหารเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เพื่อเดินหน้ากวาดล้างกองกำลังของกลุ่มฮามาสให้หมดสิ้น ตามเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้ อีกทั้งจุดที่มีการทะลวงเข้าไปถึงนั้น เป็นถนนสายหลักที่วิ่งผ่ากลางฉนวนกาซาตั้งแต่เหนือสุด จรดใต้สุด
โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่า สามารถสังหารผู้นำกองกำลังกลุ่มฮามาสระดับสูงได้เพิ่มอีกจากการโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมาจากการโจมตีทางอากาศ
กองกำลังฮามาสยังคงยิงจรวดตอบโต้
แม้ว่า จะเข้าสู่วันที่ 4 ของการเปิดการบุกทางภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอล แต่พื้นที่ที่กองทัพอิสราเอลสามารถเข้าควบคุมได้นั้น ในพื้นที่ทางตอนเหนือ ที่เป็น 2 จุดแรก ยังคงไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนว่า สามารถรุกคืบเพิ่มเติมได้มาน้อยเพียงใด
เนื่องจากกองกำลังของฮามาสยังคงปักหลักสู้ และพยายามยันแนวรุกของอิสราเอลไว้ โดยอาศัยความชำนาญพื้นที่ และโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดิน มีการใช้จรวดต่อต้านรถถังเข้าโจมตีขบวนรุกของอิสราเอลไว้ และใช้ปืนครกในการโจมตีที่ตั้งของอิสราเอล
กองกำลังฮามาสระบุว่า สามารถยับยั้งแนวรุกของอิสราเอลไว้ได้ ไม่ให้กองทัพอิสราเอล สร้างพื้นที่สงครามไว้ได้ และยังระบุว่า สามารถสังหารทหารของอิสราเอล รวมถึงทำลายยานเกราะของกองทัพอิสราเอลได้อีก 2 คัน
เวสต์แบงก์ยังปะทะกันต่อเนื่อง
สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์ยังคงมีการปะทะกันระหว่างอิสราเอลและกองกำลังปาเลสไตน์ โดยกองกำลังอิสราเอลยังคงเดินหน้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่า จะเป็นกลุ่มกองกำลังฮามาส ส่งผลให้มีการปะทะกันกับกองกำลังชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์
ในการปะทะกันที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีพลเรือนบางส่วนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และกองทัพอิสราเอลยังได้โจมตีบ้านของซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นําอาวุโสกลุ่มฮามาสหลังหนึ่งในเขตเวสต์แบงก์ด้วย พร้อมทั้งควบคุมตัวบุคคลในครอบครัวไปด้วย แต่ไม่ได้ตัวของ ซาเลห์ อัล-อารูรี แต่อย่างใด เนื่องจากมีรายงานยังคงอยู่ในเลบานอน
ซึ่งตั้งแต่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีต่ออิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. กองทัพอิสราเอลได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย และกองกำลังฮามาสในเขตเวสต์แบงก์ไปแล้วกว่า 1,700 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่อง
จากเหตุการสู้รบที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตโดยเฉพาะในฉนวนกาซาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8,300 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มีเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ 64 ราย, นักข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ฉนวนกาซาอีก 31 ราย
ส่งผลให้หลายชาติยังคงกังวลกับการสู้รบที่เกิดขึ้น ซึ่งฉนวนกาซายังคงถูกปิดล้อมเบ็ดเสร็จโดยกองทัพอิสราเอล แม้จะมีการส่งขบวนความช่วยเหลือเข้าไป แต่เป็นเพียงบางส่วนที่ยังคงไม่สามารถให้การช่วยเหลือกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ การโจมตีของอิสราเอลยังคงถูกตั้งข้อสังเกตและประณามจากหลายชาติถึงการโจมตีที่คลุมเครือ และไม่ชัดเจนต่อเป้าหมายต่าง ๆ ในฉนวนกาซา ที่อาจจะไม่ได้แยกแยะระหว่างพลเรือน และกองกำลังฮามาสอย่างชัดเจน ด้านอิสราเอลยังคงปฏิเสธ และอ้างว่า กองกำลังของฮามาสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
