คัดลอก URL แล้ว
DAY 16 : อิสราเอลจะยกระดับการโจมตี / แรงงานไทยบาดเจ็บเพิ่ม

DAY 16 : อิสราเอลจะยกระดับการโจมตี / แรงงานไทยบาดเจ็บเพิ่ม

ผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้ว หลังจากกลุ่มฮามาสได้เปิดฉากโจมตีไปยังอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา สถานการณ์การยิงตอบโต้กันของทั้งสองฝ่ายยังคงมีอยู่ ในขณะที่ส่อแววลุกลามมากขึ้น ทั้งทางตอนเหนือของอิสราเอลและ ในฉนวนกาซา

อิสราเอลโจมตีทางอากาศ-ฮามาสยิงจรวด

กองทัพอิสราเอลยังคงเปิดฉากโจมตีไปยังฉนวนกาซาในช่วงคืนที่ผ่านมา ในหลายจุดของฉนวนกาซาในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเมืองราฟาห์, ข่าน ยูนีส, กาซาซิตี้ และทางด้านตะวันออกของฉนวนกาซา และมีรายงานว่า สามารถสังหารผู้นำระดับกองกำลังสูงของกลุ่มฮามาสได้ ซึ่งในการโจมตีที่เกิดขึ้นทางตอนกลางของฉนวนกาซา ทำให้ผู้นำระดับสูงของฮามาสเสียชีวิตพร้อมครอบครัว

ซึ่งในขณะนี้ กองทัพอิสราเอลระบุว่า มีความพร้อมที่จะเปิดปฏิบัติการทางภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซาแล้ว แต่ยังคงไม่ได้ไฟเขียวจากฝ่ายปกครอง ที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดปฏิบัติการภาคพื้นดิน

ส่วนการโจมตีทางอากาศจะยังคงมีต่อไป และกองทัพอิสราเอลประกาศจะยกระดับการโจมตี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ “ขั้นตอนถัดไป” โดยจะเน้นการโจมตีที่ลึกและละเอียดมากขึ้น เพื่อลดระดับความเสี่ยงของกองทัพอิสราเอล หากจะต้องปฏิบัติการภาคพื้นดิน และทางกองทัพอิสราเอลยังได้มีการโปรยใบปลิวให้ชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในฉนวนกาซาเร่งอพยพลงไปทางใต้ เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

ทางด้านของกลุ่มฮามาส ยังคงมีการโจมตีกลับออกมาจากฉนวนกาซามาเป็นระยะ ๆ ซึ่งยังคงอยู่ในอัตราใกล้เคียงเดิม และมีเป้าหมายที่ตั้งใกล้เคียงเดิม โดยใช้จรวดและปืนครกในการยิงออกมายังพื้นที่เป้าหมายโดยรอบฉนวนกาซา รวมถึงกรุงเทอาวีฟของอิสราเอลด้วย

เวสต์แบงก์เดือด

ทางด้านของสถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์มีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ยังคงมีการปะทะกันขนาดเล็ก ๆ ในหลายจุด ซึ่งในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีรายงานระบุว่า พบการใช้ระเบิดแสวงเครื่องในการก่อเหตุความวุ่นวายในฉนวนกาซา ซึ่งสามารถยืนยันจุดได้แล้วอย่างน้อยหนึ่งจุด นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอล ที่มีการใช้ระเบิดในการก่อเหตุความวุ่นวายในเขตเวสต์แบงก์ เพื่อโจมตีไปยังที่ตั้งและขัดขวางการปฏิบัติงานของอิสราเอล

นอกจากนื้ เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพอากาศอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศไปยังพื้นที่เป้าหมายบริเวณใกล้เคียงกับค่ายผู้ลี้ภัย Jenin ในเขตเวสต์แบงก์ โดยอิสราเอลระบุว่า มัสยิดที่ถูกโจมตีนั้นถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้าย

ตอนเหนืออิสราเอลเดือดขึ้นต่อเนื่อง

ทางตอนเหนือของอิสราเอล บริเวณพรมแดนระหว่างอิสราเอลและเลบานอน สถานการณ์ยังคงดุเดือดมากยิ่งขึ้น โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบุลลอห์ ได้มีการใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถังยิงเข้ามายังที่ตั้งของกองกำลังอิสราเอลในหลายจุดด้วยกัน ตลอดแนวพรมแดน ทำให้อิสราเอลมีการยิงปืนใหญ่ตอบโต้กลับไปยังจุดที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของกลุ่มฮิซบุลลอห์

นอกจากนี้ มีรายงานการยิงจรวดเข้ามาโจมตีในดินแดนอิสราเอลทางตอนเหนือสุดของอิสราเอล ซึ่งทำให้กองทัพอากาศอิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศไปยังฐานที่มั่น ที่เชื่อว่า เป็นจุดเก็บอาวุธของกลุ่มฮิซบุลลอห์ในดินแดนเลบานอนด้วย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้หลายฝ่ายเฝ้าติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีแนวโน้มที่สงครามจะขยายตัวเพิ่มขึ้น หากยังมีการเสริมกำลังเข้าไปของทั้งสองฝ่าย

การปะทะที่เกิดขึ้นและส่งแววที่จะรุนแรงมากยิ่งขึ้นบริเวณทางตอนเหนือของอิสราเอล ส่งผลให้มีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 2 ราย และสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟได้แจ้งต่อแรงงานไทยในพื้นที่เสี่ยง ให้อพยพออกจากพื้นที่มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว

กองกำลังติดอาวุธ ยังมุ่งเป้าที่กองทัพสหรัฐฯ

กลุ่มกองกำลังติดอาวุธอิรัก – ซีเรีย ยังคงเดินหน้าโจมตีไปยังที่มั่นของกองกำลังสหรัฐฯ รวมถึงฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ที่มีความเคลื่อนไหวมุ่งเป้าไปยังกองทัพสหรัฐฯ

ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า กลุ่มกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้ จะยังคงเดินหน้าโจมตีฐานที่มันของกองทัพสหรัฐต่อไป ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้อนุมัติในการเคลื่อนย้ายระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD รวมถึง Patriot ไปยังพื้นที่ตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น และยังคงมีคำสั่งให้เตรียมพร้อมเพิ่มเติมหากต้องส่งยุทโธปกรณ์เข้าไปยังตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นด้วย โดยสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากการยกระดับของอิหร่านและกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุน

คาราวานสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าสู่กาซา

เมื่อวานที่ผ่านมา มีการเปิดเส้นทางช่วยเหลือพิเศษให้กับฉนวนกาซา หลังจากที่มีการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ให้มีการเคลื่อนขบวนสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวน 20 คันเข้าสู่ฉนวนกาซาเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จโดยกองทัพอิสราเอล

ขบวนสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกลำเลียงมาเตรียมพร้อมอยู่ที่ประเทศอิยิปต์บริเวณใกล้เคียงกับจุดผ่านแดนราฟาห์ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน แต่ไม่ได้รับไฟเขียวให้ดำเนินการเปิดด่าน ส่งผลให้หลายฝ่ายพยายามเจรจา นำไปสู่การปล่อยตัวประกันชาวอเมริกัน 2 คน

โดยทางกลุ่มฮามาสยังได้ประกาศเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีแผนการที่จะปล่อยตัวประกันที่จับกุมตัวไว้ แต่ทางการอิสราเอลประกาศที่จะไม่เจรจา และเปิดการโจมตีฉนวนกาซา โดยมีเป้าหมายในการเปิดทางให้มีการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซา ด้านอิสราเอลปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่า จะไม่ตอบสนองต่อโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มฮามาส

ซึ่งสร้างแรงกดดันจากนานาชาติต่ออิสราเอล และทำให้มีการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ให้ขบวนความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา รวมถึงการที่อิสราเอลยังคงไม่สามารถเปิดไฟเขียวให้กองทัพอิสราเอลเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินบุกเข้าฉนวนกาซาด้วย

ยอดผู้เสียชีวิตในกาซา ยังเพิ่มต่อเนื่อง

จากการโจมตีที่เกิดขึ้นส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในเขตเวสต์แบงก์ มีผู้บาดเจ็บแล้วกว่า 1,700 คน จากการปะทะกันที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา

อัตราการสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลให้หลายประเทศมีการออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้มีการหยุดยิง และส่งความช่วยเหลือไปยังชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในฉนวนกาซา โดยเฉพาะที่ลอนดอน, สหราชอาณาจักร คาดว่า มีผู้ออกมาร่วมเดินขบวนแสดงออกในครั้งนี้เกือบ 1 แสนคน

ด้านสหประชาติได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อตกลงและนำไปสู่การหยุดยิง เพื่อเปิดเส้นทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งขบวนความช่วยเหลือขบวนแรกในครั้งนี้ ไม่สามารถช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ได้อย่างทั่วถึง เป็นเพียงการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว

นอกจากนี้ สหประชาชาติยังคงเรียกร้องไปยังอิสราเอล ขอให้ระบุ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่จะไม่ถูกทิ้งระเบิดอย่างชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไป โรงพยาบาล โรงเรียน และอื่นๆ จะได้รับการยกเว้นจากการโจมตีตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ที่ผ่านมา มีสิ่งปลูกสร้าง โกดัง หรือสถานที่ของ UNRWA ได้รับความเสียหายจากการโจมตีไปแล้ว 35 จุดด้วยกัน มีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตแล้วเกือบ 30 คน มีการโจมตีสถานพยาบาลมากกว่า 60 ครั้ง รวมถึงโรงพยาบาลอีก 7 แห่งที่ไม่สามารถให้บริการได้ในขณะนี้

Xinhua/Ahmed Gomaa)

อียิปต์ย้ำ ไม่รับพลเรือนจากกาซาเข้าคาบสมุทรไซนาย

สำนักงานประธานาธิบดีของอียิปต์รายงานว่า อับเดล-ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่อนุญาตให้พลเรือนที่ไหลทะลักออกจากฉนวนกาซา เข้ามายังเขตคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ระหว่างการประชุมร่วมกับริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศ

ประธานาธิบดีอียิปต์กล่าวเตือนว่า “เรื่องนี้เป็นสิ่งอันตรายอย่างยิ่ง และอาจทำให้เป้าหมายของชาวปาเลสไตน์จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์” พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการร่วมกันเพื่อคุมการลุกลามของสถานการณ์ในฉนวนกาซาที่อาจจะ “คุมไม่อยู่”

“การฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพควรเป็นหนึ่งในบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้ เช่นเดียวกับการให้ความหวังแก่ชาวปาเลสไตน์ในการจัดตั้งรัฐของตน บนอาณาเขตพื้นที่ตามเส้นแบ่งพรมแดนในปี 1967 โดยมีนครเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออกเป็นเมืองหลวง” เขากล่าว

ด้านริชี ซูนัค ยินดีกับความพยายามของอียิปต์ในการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ระหว่างอียิปต์และกาซาอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่าสหราชอาณาจักรมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือพลเรือนในกาซาและบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่ในกาซา

อนึ่ง การเผชิญหน้าอันรุนแรงระหว่างกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์และอิสราเอล ซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่ายสูงกว่า 5,000 รายแล้ว


ที่มา – ซินหัว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง