คัดลอก URL แล้ว
Blockchain คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร!?

Blockchain คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร!?

ช่วงเหลือหลายคนคงสงสัย เกี๋ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่นอกจากจะอยากทราบถึงรายละเอียดโครงการแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงในนโยบายดังกล่าว โดยทางพรรคเพื่อไทยพยายามนำเสนอคือ การนำระบบ ‘Blockchain’ เข้ามาใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว

ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้ให้เหตุผลถึงการนำระบบนี้เข้ามาใช้ เพราะเป็นระบบที่ปลอดภัยและโปร่งใส เนื่องจากระบบ Blockchain นั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อ รายละเอียด และข้อมูลต่าง ๆ ได้ทั้งฝั่งผู้ซื้อ – ผู้ขาย หรือ กล่าวคือเป็นระบบที่สามารถตรวจสอบการนำเงินดิจิทัลจากต้นทางไปสู่ปลายทางได้

‘Blockchain’ คืออะไร?

เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) กระจายข้อมูลที่จัดเก็บไปยังแต่ละ Node ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ที่เชื่อมโยงกันในเครือข่าย Blockchain

โดยกลุ่มข้อมูล (Block) ที่จัดเก็บจะเชื่อมต่อกันเป็นห่วงโซ่ (Chain) ด้วยกระบวนการเข้ารหัส ซึ่งข้อมูลแต่ละ Block จะมีค่าทางคณิตศาสตร์(Hash) ของ Block ก่อนหน้าเพื่อใช้สอบทานความถูกต้อง จึงทำให้การจัดเก็บข้อมูลสามารถมีข้อมูลเพียงชุดเดียวที่กระจายจัดเก็บอยู่ใน
Node ต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางในการจัดเก็บหรือควบคุม ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกปลอมแปลงข้อมูล

นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติผ่านกลไก Smart Contract โดยเมื่อมีการส่งคำสั่งทำธุรกรรม หรือคำสั่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลธุรกรรมหรือเงื่อนไขของการทำธุรกรรม

คำสั่งนั้นจะต้องได้รับการตรวจสอบและลงความเห็นจากสมาชิกในเครือข่าย Blockchain เรียกว่า การทำ Consensus ส่งผลให้การบริหารจัดการข้อมูลในเครือข่าย Blockchain มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือและยากต่อการแก้ไขหากไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งระบบดังกล่าวมีการพัฒนามาตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ และถูกนำมาใช้อย่างจริงจังและแพร่หลาย หลังการเข้ามาของสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกที่ถูกเรียกว่า คริปโตเคอเรนซี่ (cryptocurrency) อย่าง Bitcoin ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักลงทุนในแวดวงคริปโตฯ

ทั้งนี้หลังการเข้ามาของเทคโนโลยี ‘Blockchain’ ในประเทศไทย ได้มาการศึกษาระบบดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีหลายบริษัทเอกชนได้นำระบบนี้มาใช้กันอย่างมากมาย ทั้งด้านการทำธุรกรรม ทางการแพทย์ การขนส่ง และ อื่น ๆ

ข้อดีของระบบ Blockchain

อีกทั้งการทำธุรกรรมผ่านระบบดังกล่าว สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำธุรกรรมได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

การทำธุรกรรมผ่านระบบ Blockchain นั้น เป็นระบบที่แม่นยำซึ่งทุกกระบวนการสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดโดยไม่ผ่านตัวกลาง โดยทุกคนสามารถทำการตรวจสอบได้ทั้งหมด เนื่องจากทุกธุรกรรมจะมีการคัดลอกไปยังคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบ แต่ไม่สามารถแก้ไข เปลี่ยงแปลง หรือ ลบข้อมูลได้บน Blockchain

รวมไปถึงความปลอดภัยในการเข้าใช้ ซึ่งการทำธุรกรรมในแต่ละครั้งจะมีขั้นตอนการเข้ารหัส การยืนยันตัวตน

ข้อจำกัดของระบบ Blockchain

ข้อดีและข้อเสียของระบบ Blockchain มักอยู่ในตัวของมันเองทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้งข้อจำกัดที่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ กล่าวคือ ในการทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง เมื่อถูกบันทึกผ่านระบบแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้เลย ทำให้การทำธุรกรรมในแต่ละครั้งต้องตรวจสอบความถูกต้องให้ดีเสียก่อน

อีกทั้งการจัดเก็บข้อมูลที่มีจำกัด และยากในการขยายระบบ ซึ่งปัจจุบันมีความพยายามที่จะพัฒนาแก้ไขเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ระบบสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น

ความเสี่ยงเฉพาะจากการใช้เทคโนโลยี Blockchain

1.การกำกับดูแลเครือข่าย Blockchain ไม่ครอบคลุมเพียงพอ

2.Smart Contract ทำงานไม่ถูกต้องและไม่ปลอดภัย

3.การโจมตีกลไก Consensus

4.การบริหารจัดการกุญแจเข้ารหัสที่ไม่รัดกุมเพียงพอ


ข้อมูล – ธนาคารแห่งประเทศไทย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง