คัดลอก URL แล้ว
‘สว.สมชาย’ เสนอ ‘เพื่อไทย’ แถลงให้ชัด พรรคร่วม ต้องไม่มีนโยบายแก้ ม.112

‘สว.สมชาย’ เสนอ ‘เพื่อไทย’ แถลงให้ชัด พรรคร่วม ต้องไม่มีนโยบายแก้ ม.112

วันนี้ (21 ก.ค. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

นายแพทย์ชลน่าน แถลงว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจการจัดตั้งรัฐบาลให้กับทางพรรคซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิมการที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะหารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

ล่าสุด นายสมชาย แสวงการ  สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ 4 ข้อของพรรคเพื่อไทย พร้อมระบุว่า

ยินดีกับการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทยถือเป็นการเดินตามครรลองประชาธิปไตยที่ถูกต้องดังนั้นจึงขอเสนอผ่านไปยังพรรคเพื่อไทยแกนนำใหม่ ควรแถลงประเด็นของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ ให้ชัดเจนอย่างน้อย ดังนี้


1)ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี


2)พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่ต้องมีนโยบายร่วมสำคัญในการเดินหน้าประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีความสงบสันติสุข และไม่มีนโยบายใดๆจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือกลุ่มการเมือง กลุ่มอื่นๆที่พรรคการเมืองสนับสนุนในการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา112 และมาตราอื่นๆที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กระทบต่อสถาบันหลัก คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งการกระทำโดยตรงของรัฐบาลรมต สส และเครือข่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะกระทำเองหรือการให้การสนับสนุนใดๆอีกต่อไป


3)ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริตและคดี112 หรือคดีอาชญากรรมร้ายแรง


4)นโยบายด้านเศรษฐกิจนำพาสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม


5)นโยบายด้านการต่างประเทศที่ไม่กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค


6)นโยบายด้านการทหารและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในทุกมิติ


7)นโยบายด้านปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาสังคมเพื่อเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยจากสังคมสื่อโซเชี่ยลที่สร้างความเกลียดชังในปัจจุบัน


8)นโยบายด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม


9)นโยบายกระจายความเจริญลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครอบคลุมทุกมิติ


10)นโยบายแก้ไขปัญหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่สนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนใดๆ


11)นโยบายแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นรูปธรรม


ถ้าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ยังหาข้อสรุปร่วมให้ชัดเจนไม่ได้ ขอเสนอให้ทำเรื่องแจ้งต่อประธานรัฐสภา เพื่อเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27กค ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน


เพื่อจะได้เกิดความรอบคอบรัดกุมให้ชัดเจนในการให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่วมกันทำหน้าที่โหวตให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนที่30 ได้เสียทีครับ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง