สำหรับเทศกาลสงกรานต์ในปี 2566 นี้ นับเป็นอีกหนึ่งปีที่มีวันหยุดยาวตั้งแต่พฤหัสที่ 13 ถึงวันจันทร์ที่ 17 เมษายน รวมสิริวันหยุดมากถึง 5 วัน (ในบางรายก็อาจจะหยุดล่วงหน้าในวันพุธที่ 12 เมษายนอีกด้วย) นับเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม หรือการหาโอกาสเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ต่างวางแผนเตรียมความพร้อมต่าง ๆ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในช่วงหยุดยาวนี้
แม้แต่ผู้ใช้รถยนต์เอง การเตรียมรถให้พร้อมการเดินทางไกลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าจะเพิ่งผ่านการตรวจสภาพรถมาแล้ว แต่ด้วยผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 หรือการใช้งานรถในสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนทำให้ชิ้นส่วนบางรายการเสื่อมสภาพก่อนกำหนด เพื่อช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจไร้สิ่งรบกวน และอุบัติเหตุตลอดการเดินทาง
ทำความสะอาดรถ เคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นออก หากรถของคุณผ่านการตรวจสภาพสด ๆ ร้อน และสภาพรถของคุณมีความพร้อมในการเดินทางไกลได้ 100% สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการทำความสะอาดรถรับปีใหม่ไทย เคลียร์สิ่งของภายในรถที่ไม่จำเป็นออก กำจัดขยะ และสิ่งสกปรกออกจากรถ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยดูแลรักษาสุขอนามัยภายในรถ และช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังช่วยในการปรับสภาพจิตใจของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และเพิ่มความรู้สึกดีให้กับญาติมิตรเพื่อนสนิทอีกด้วย
เช็คสภาพช่วงล่าง ล้อ และเบรก ด้วยการที่ต้องเดินทางไกล สภาพช่วงล่าง ล้อ และเบรก จึงมีความสำคัญอย่างมาก เริ่มจากสิ่งที่สามารถดูแลได้ด้วยตัวเองอย่างการเติมลมยาง ที่ควรจะเพิ่มลมยางให้มากกว่าปกติ อาทิ ลมยางปกติจะอยู่ที่ 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) หากต้องเดินทางไกลควรเติมเพิ่มเข้าไป 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เป็น 32 – 33 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว รวมถึงหากต้องขนสมาชิกจำนวนมาก หรือขนสัมภาระเยอะ ๆ ก็ควรเพิ่มลมยางที่ล้อหลังอีกเล็กน้อยตามที่คู่มือระบุไว้ ซึ่งจะช่วยให้ขับรถได้นุ่มนวล ยืดอายุขัยของยาง และลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน
อีกทั้งควรตรวจสภาพแก้มยางว่าเนื้อแข็ง หรือมีรอยแตก ยางบวม รอยขีดข่วน และดอกยางว่าสุกถึงสะพานยางมากน้อยแค่ไหน
ต่อมาคือการเช็คความสะอาดของจานเบรก ความหนาของผ้าเบรก และหากเป็นไปได้ควรทำความสะอาดจานเบรกก่อนออกเดินทางไกลไว้ล่วงหน้าเพื่อการกดเบรกที่ทำได้เต็มที่ยิ่งขึ้น ช่วยถนอมทั้งผ้าเบรก และจานเบรก
สำหรับช่วงล่างที่ไม่สามารถจัดการได้ตัวเอง เช่น ระบบพวงมาลัย ระบบกันสะเทือน หรือแม้แต่ศูนย์ล้อที่ต้องอาศัยเครื่องมือขนาดใหญ่ หรือช่างที่มีประสบการณ์ หากในระหว่างขับขี่แล้วพบความผิดปกติ ก็ควรให้ศูนย์บริการช่วยตรวจสภาพล่วงหน้า แต่ถ้าผ่านการตรวจสภาพแล้วไม่พบปัญหาใด ๆ ก็ให้โฟกัสที่ลมยาง ดอกยาง และความสะอาดระบบเบรกไว้ก่อน
เติมของเหลวใหม่ ๆ ไม่ให้พร่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัย น้ำยาหล่อเย็น น้ำยาแอร์ ควรตรวจสอบว่ามีสภาพพร่องหาย สีเปลี่ยนหรือไม่ เพื่อที่จะได้เปลี่ยน หรือเติมของเหลวเพิ่ม อีกทั้งอาจจะรวมถึงเป็นจุดที่สามารถประเมินความเสียหายของระบบจากการรั่วซึมตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้อีกด้วย
เปลี่ยนไส้กรองแอร์ ในระหว่างที่กำลังใช้งานรถช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 ระบาดหนักอย่างต่อเนื่อง หรือใช้งานแอร์รถยนต์บ่อย ๆ ทั้งเศษฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ จะส่งผลต่อการอุดตันของไส้กรอง หรือแม้แต่แหล่งสะสมเชื้อโรค หลังจากทำความสะอาดช่องแอร์แล้ว ควรตรวจสอบไส้กรองแอร์ว่ายังพร้อมใช้งาน หรือยังสะอาดดีอยู่หรือไม่ ซึ่งหากสกปรกมากก็อาจจะต้องเปลี่ยนแต่เนิ่น ๆ เพื่อสุขอนามัย
หากรถคุณติดตั้งกรองอากาศสำหรับเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบและเตรียมเปลี่ยนไส้กรองควบคู่ด้วย เพื่อช่วยปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน ลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ตรวจสอบรายการอื่น ๆ อาทิ ใบปัดน้ำฝนต้องระมัดระวังการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ, เช็คสภาพขอบยางประตู, เช็คระบบไฟฟ้าต่าง ๆ, แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นต้น ว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน และสามารถรองรับการเดินทางไปกลับได้ตลอดเส้นทางหรือไม่
เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน อาทิ ชุดปั๊มลม, สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์, ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง, ชุดไขควง, ชุดปะยางฉุกเฉิน, เบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ อาทิ โรงพยาบาล ตำรวจทางหลวง กู้ภัย ศูนย์บริการ ประกันภัย เป็นต้น ซึ่งอาจจะมีทั้งจดลงกระดาษ หรือแม้แต่บันทึกลงแอปพลิเคชั่น เป็นต้น เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางไกลยิ่งขึ้น
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ควรคำนึงถึงสภาพอากาศที่ร้อน การเดินทางที่ไกล และพฤติกรรมการขับขี่จนเพิ่มโอกาสให้แบตเตอรี่หมดไวขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่ตามมาก็คือการตามหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (ทั้งผ่านการจองในแอปพลิเคชั่น หรือเสิร์จผ่านช่องทางออนไลน์) และการเตรียมเวลาเผื่อจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ รอคิวของรถคันอื่น ระยะเวลาในการชาร์จ การชาร์จที่มีปัญหา เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลต่อความล่าช้าในการถึงจุดหมาย
ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า จึงต้องวางแผนเส้นทางในการเดินทางจากต้นทาง ถึงปลายทาง วางแผนจุดแวะชาร์จรวมถึงการเตรียมแผนสำรอง ทั้งเส้นทางสำรอง สถานีชาร์จแห่งอื่น เวลาในการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญรถติดหนัก หรือแม้แต่ความล่าช้าในการเดินทางจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
การเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางหยุดยาวอย่างเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาตัวรถ และอุบัติเหตุจนอาจจทำให้การเดินทางไม่ราบรื่นตามที่คาดหวังไว้ และอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมด้วยเช่นกันนั่นคือ สุขภาพของผู้ขับขี่ที่จะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นดื่มน้ำบ่อย และเมาไม่ขับ เพื่อให้เทศกาลสงกรานด์ในปีนี้ของคุณมีความสุข ปราศจากภัย เติมเต็มความสดใสรับปีใหม่ไทย
