KEY :
- นายกฯ แถลงหลังประชุมมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธ
- จะเข้มงวดบังคับใช้กฏหมาย เรื่องการออกใบอนุญาต-ต่อใบอนุญาต และการพกพา โดยต้องมีการตรวจสอบรับรองจากผู้บังคับบัญชา หรือผู้นำชุมชน ว่า ไม่วิกลจริต หรือเป็นภัยต่อสังคม
- เร่งกวาดล้างปืนเถื่อนจริงจัง รวมถึงทบทวนแก้ไขกฎหมายให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น
- ส่วนยาเสพติด เร่งขายผลจับกุม อายัติทรัพย์สินผู้ค้ายา และนำผู้เสพเข้าบำบัด
…
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุม เพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ว่า ในวันนี้มาตรการสำคัญที่เราได้มีการหารือร่วมกันในวันนี้เพื่อให้เกิดการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด โดยเรื่องอาวุธปืน จะมีการกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเครื่องกระสุนอาวุธปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการออกใบอนุญาตและการต่อใบอนุญาต และการพกพาทั้ง โดยผู้ที่ขออนุญาตจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน มีการตรวจสอบรับรอง ไม่วิกลจริตฟั่นเฟือน มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่ รวมถึงไม่มีพิษภัยต่อสังคม มีมาตรการตรวจสอบทบทวนคุณสมบัติทุกวงรอบและเวลาที่เหมาะ
นอกจากนี้มีการหารือในเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนเมื่อพบปัญหาทางจิตพฤติการณ์มีพิษภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อน การซื้อขายออนไลน์อย่างจริงจัง รวมไปถึงจำเป็นต้องทบทวนกฎหมายบางฉบับ กฎกระทรวง บางเรื่องที่จำเป็นให้มีความทันสมัยและสอดคล้องต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยได้มีการมอบหมายไปแล้วว่าจะดำเนินการอะไรอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของคณะทำงานที่ต้องเร่งดำเนินเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจนยิ่ง
ส่วนเรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้มีการทำอย่างเต็มที่ทั้งควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมี การเร่งติดตามขยายผล ทำลายนักค้ายาเสพติดและเร่งอายัติทรัพย์สิน การดำเนินการนำผู้เสพเข้าสู่ระบบข้อมูล รวมไปถึงทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย และประเด็นปริมาณครอบครองเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู วันนี้ก็มีการหารือเรื่องจำนวน 5 เม็ด หากจำเป็นก็ต้องมีการปรับแก้กฎหมายพวกนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีการ
ขณะเดียวกันในส่วนของเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เข้าไปมีส่วนข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จะต้องมีการลงโทษโดยเด็ดขาดในทุกกรณีทันที
ส่วนการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด จะต้องเร่งค้นหาคัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่ระบบ กลุ่มภาคีเครือข่าย จัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครอบคลุมพื้นที่ตำบล ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ท้องถิ่น และมีมาตรฐานสากล และกระบวนการบำบัด วันนี้ต้องหาให้ได้ว่าในพื้นที่ ท้องถิ่นในชุมชนในหมู่บ้าน มีผู้ที่ติดยาเสพติดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร โดยจะเข้าไปเอกซเรย์คัดคนเหล่านี้ออกมาเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดให้ได้ ซึ่งชุมชนเป็นส่วนสำคัญที่ต้องช่วยกันกับหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่มีพฤติกรรม ชอบความรุนแรง มีปัญหาส่วนตัว ติดยาเสพติด มีการเสนอว่าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อที่จะติดตามดูแลคนเหล่านี้
ด้านการดูแลและพัฒนาแก้ไขสุขภาพ จะต้องเน้นย้ำในเรื่องการดูแลสุขภาพจิตในสถานศึกษาโรงเรียนทุกแห่ง สถานประกอบการต่างๆที่มีพนักงานจำนวนมาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรงจะต้องหารือร่วมกัน ในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูนั้นจะต้องดำเนินการให้ทัน ทั้งหน่วยงานจิตเวช มีการดำเนินการตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดในทุกอำเภอ มีการตั้งหน่วยงานจิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอ ในการดูแลเบื้องต้นทางจิตแพทย์ทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โดยใช้วิธีการชุมชนบำบัด มีสิทธิประโยชน์อะไรต่างๆในการรักษาจิตเวชทางไกล
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีเรื่องหารือกันหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งความจริงแล้วได้ให้ความเข้มงวดในเรื่องต่างๆเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ วันนี้เป็นปัญหาซ้อนปัญหา ไปในเรื่องการใช้อาวุธปืนก่อเหตุรุนแรง และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ติดยาเสพติด และผู้ที่ไม่ได้ติดยาเสพติด อันนี้เป็นเรื่องที่ตนห่วงใย ในฐานะของรัฐบาล ตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และในวันนี้ หลายอย่างได้มีการทบทวนและใช้เวลาในการดำเนินการ แต่อะไรที่ทำได้ก็จะทำในทันที เพราะฉะนั้นก็ขอเตือนไว้ด้วยว่าทุกคนต้องช่วยกัน วันนี้ก็มีการแจ้งข่าวในช่องทางพิเศษอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ขอให้แจ้งเข้ามาในช่องทางและจะดำเนินการโดยทันที ก่อนที่จะยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ อย่างที่สุดและยิ่งยวด ที่มีการคุยกันถึงเรื่องความต้องการซื้อและความต้องการขาย การแก้ไขปัญหาผู้เสพรายใหม่ การดูแลจัดทำอย่างไรในชุมชน ทั้งหมดเป็นระบบทั้งในเรื่องป้องกันป้องปราม ปราบปราม บำบัดรักษา อย่างครบถ้วน ขอให้สื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจด้วยและก็แล้วกัน รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใคร ในการที่จะรับข้อมูลโดยขอให้แจ้งมาจะได้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้
ส่วนจะต้องมีการเร่งรัดการดำเนินการในสถานศึกษาหรือไม่นั้นได้ยกรัฐมนตรีเพียงแต่พยักหน้ารับ และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามย้ำว่าคณะกรรมการชุดนี้แตกต่างจากคณะกรรมการชุดอื่นอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆเพียงว่า เดี๋ยวให้เลขาฯเป็นผู้ชี้แจง
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่วานนี้ นายกรัฐมนตรีมีการสั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องงบประมาณ 50 ล้านที่หายไป ในการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ