คัดลอก URL แล้ว
การล่มสลายของ Terra เป็นโดมิโน่มาสู่ Zipmex

การล่มสลายของ Terra เป็นโดมิโน่มาสู่ Zipmex

KEY :

ข่าวใหญ่เขย่าวงการคริปโต (Cryptocurrency) โดยเฉพาะฝั่งบ้านเรา สำหรับเหตุการณ์ที่ Zipmex Thailand ซึ่งเป็นกระดานซื้อขายคริปโตของประเทศไทย ประกาศระงับการถอนเงินบาทและคริปโตเคอร์เรนซีชั่วคราวเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการออกแถลงการณ์ระบุว่า

“เนื่องด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึง ความผันผวนของตลาด เหตุการณ์ต่างๆในอุตสาหกรรม ตลอดจนปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นจากคู่ค้าทางธุรกิจหลัก อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เพื่อรักษาเสถียรภาพของแพลตฟอร์ม บริษัทฯ จะระงับการถอนทุกกรณีชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม บริษัทขออภัยและขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจและความอดทนของท่านในระหว่างนี้”

พร้อมกันนี้ทาง ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอของทาง Zipmex Thailand ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากประกาศระงับการถอนเงินบาท และสินทรัพย์ดิจิทัล ทางบริษัทกำลังประสบปัญหากับผลิตภัณฑ์ ZipUp+ (ลูกค้าไทยฝากเข้า Zipmex Global) ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการขาดสภาพคล่องของ Partners อันส่งผลกระทบต่อเหรียญ BTC ETH USDT และ USDC นอกจากนี้พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมาย แต่จะนำทรัพย์สินดิจิทัลของทุกคนคืนกลับมา

จากคลื่นลูกแรกของ Terra สู่ความพินาศเป็นโดมิโน่

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับ บริษัท Terra ของ โด ควอน (Do Kwon) ผู้ร่วมก่อตั้ง ที่สร้างเหรียญ Luna Terra และ TerraUSD หรือ UST ซึ่งเป็นเหรียญแบบ Stablecoin เป็นเหรียญที่ใช่ตรึงราคาตามโครงสร้างของ Terra จากเหรียญที่มีมูลค่า แต่ราคากลับร่วงจนไร้มูลค่าไปเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

จากการณ์วิเคราะห์สถานการณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า Terra นั้น ‘ถูกโจมตีจากช่องโหว่’ เนื่องจากทางบริษัทฯ เข้าซื้อ Bitcoin เพื่อใช้ในการพยุงราคา UST และนั้นจึงเป็นช่องโหว่สำคัญในการโจมตีโดยผู้ไม่หวังดี จากการเปิด Short Bitcoin เพื่อเกร็งกำไร จนเหรียญ Luna Terra และ UST หลุดแนวรับไปอยู่จนต่ำสุดจนไร้มูลค่าในช่วงไม่กี่วันเท่านั้น ภายหลังทางบริษัทฯ จำเป็นต้องเทขาย Bitcoin ทำให้ในช่วงนั้นราคาเกิดความผันผวนอย่างมาก

การพยายามคืนชีพเหรียญ Luna (เปิดเหรียญใหม่) ของโด ควอน เพื่อหวังสร้างความหวังใหม่แก่นักลงทุน แต่ก็กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะ ‘ความเชื่อมั่น’ ของนักลงทุนสลายไปพร้อมกับ Terra ในยุคแรกไปแล้ว

และการล่มสลายของ Terra ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึง Babel Finance ผู้ให้บริการการเงินคริปโตชั้นนำของโลก และ Celsius แพลตฟอร์มการให้ยืมคริปโตฯรายใหญ่ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์จากทาง Zipmex นั้นเอง

ผลพ่วงของความพินาศ Terra-Luna

บทวิเคราะห์จากทาง CoinGecko ระบุว่านักลงทุนกลุ่มใหญ่จำนวนมากลงทุนใน Three Arrows Capital ซึ่งโชคไม่ดีที่ตกเป็นเหยื่อความพินาศของ Terra

การลงทุนเหล่านี้บางส่วนมาจากหน่วยงานที่รวมศูนย์ เช่น BlockFi และ Voyager ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน Voyager เปิดเผยว่ามีการเปิดรับ 3AC ประมาณ 650 ล้านดอลลาร์ นี่คือประมาณ 58% ของบัญชีเงินกู้และส่วนใหญ่ไม่มีหลักประกัน

เนื่องจากผลกระทบลำดับที่สาม โปรโตคอล DeFi เช่น Maple Finance จึงไม่ถูกเว้นไว้ เนื่องจากเงินทุนของผู้ใช้บางรายถูกให้ยืมไปยัง Orthogonal Trading ซึ่งได้ไปที่ Babel Finance ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของ 3AC

วิกฤต Babel-Celsius กระทบคู่ค้า Zipmex

ผลกระทบจากระเบิดลูกใหญ่ของโปรเจกต์ Terra-Luna ที่พังพินาศไม่เป็นชิ้นดี ทำให้หายนะนำไปสู่หลายบริษัทด้านคริปโต และ 2 บริษัท อย่าง บาเบลล์-เซลเซียส ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน โดยสำหรับบาเบลนั้น เผชิญวิกฤตขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ได้ประกาศระงับการถอนไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 เช่นเดียวกับทางเซลเซียลที่ต้องเช่นวิกฤตขาดสภาพคล่องไม่ต่างจากบาเบล และยื่นคำร้องขอล้มละลายตามมาตรา 11 แห่งประมวลกฎหมายสหรัฐอเมริกาไปแล้ว

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Zipmex มีคู่ค้ารายใหญ่อย่าง บาเบล-เซลเซียส ซึ่งแบ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ฝากไว้กับทาง บาเบล 48 ล้านดอลลาร์ และฝากกับ เซลเซียส อีก 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการคำแถลงการณ์ของทาง Zipmex ระบุว่า ที่ประสบปัญหาจริง ๆ คือ เฉพาะกับโพรดักส์ ZipUp+ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางลูกค้าในประเทศไทย ฝากไปที่ Zipmex global ที่สิงคโปร์

โดย Zipmex Global ได้นำเหรียญของลูกค้าที่ฝากไปหาผลตอบแทนกับคู่ค้า 2 บริษัทดังกล่าว และอย่างที่ทราบกับดีทั้ง 2 บริษัทได้เผชิญวิกฤต จึงเป็นเหตุให้ Zipmex ไม่สามารถถอนเหรียญออกมาได้

ผู้เสียหาย “Zipmex” ในไทยกว่า 700 คน

โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหาย “Zipmex” ร่วม 70 ราย เข้าปรึกษาที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หลังมีความเสียหายรวมมากกว่า 600 ล้านบาท จากผู้เสียหาย 744 คน

กลุ่มผู้เสียหายบางส่วนจาก Zipmex

โดยทางคณะกรรมการ ก.ล.ต.มีมติสั่งการให้บริษัทเปิดให้ซื้อขายตามหลักเกณฑ์ Trading rules ของบริษัทที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. รวมทั้งเปิดให้ลูกค้าสามารถฝาก/ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยใช้ความระมัดระวังตามมาตรฐานหรือเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อเป็นการเพิ่มความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินของลูกค้า และเพื่อประโยชน์ในการใช้บริการของลูกค้าในการซื้อขาย หรือฝาก/ถอนสินทรัพย์ดิจิทัล

โดยในระหว่างนี้ ให้บริษัทพิจารณาการรับลูกค้าใหม่ให้มีความเหมาะสมและเพียงพอ โดยให้คำนึงถึงลักษณะ ขนาด ปริมาณ ความซับซ้อนและความหลากหลายของธุรกิจและบริการ ตลอดจนความเสี่ยงที่เกี่ยวกับธุรกิจและบริการดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันนับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีหนังสือแจ้งคำสั่งคณะกรรมการ ก.ล.ต.

Zipmex สรุปสถานการณ์ล่าสุด

ซิปเม็กซ์ ได้มีการชี้แจงสถานการณ์และความเคลื่อนไหวกับสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยวาจาและลายลักษณ์อักษร รวมถึงยังได้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหวและความกังวลใจของลูกค้าในประเด็นต่างๆ และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงเพื่อคลายความกังวลให้แก่ลูกค้าได้โดยเร็ว

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง Zipmex, Babel Finance และ Celsius ทางซิปเม็กซ์ได้ทำการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับ Babel Finance และ Celsius ตั้งแต่เริ่มให้บริการ ZipUp+ จนเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา Celsius ระงับการถอนจากแพลตฟอร์มทันทีที่ทราบข่าว และทางซิปเม็กซ์ได้มีการติดต่อไปยัง Celsius เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม ซิปเม็กซ์ได้มีการพิจารณาแล้วว่า งบดุลของทางบริษัทฯ ในขณะนั้น สามารถรองรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ ซิปเม็กซ์จึงน้อมรับภาระขาดทุนนี้ด้วยงบของทางบริษัทฯ เอง

ในกรณีของ Babel Finance ที่ได้มีการระงับการถอนนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซิปเม็กซ์จึงได้มีการติดต่อไปยัง Babel Finance เป็นระยะ ๆ และได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับทาง Babel Finance ต่อไป

โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งจัดทำศูนย์ให้บริการ Hotline เพื่อให้การสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าทุกท่าน โดยคาดว่าจะพร้อมให้บริการภายในสัปดาห์นี้ โดยวันและเวลาที่เราจะให้บริการนั้น จะประกาศให้ทราบต่อไป

ข้อมูล


ข่าวที่เกี่ยวข้อง