KEY :
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียกประชุมทีมแพทย์ เพื่อวางแผนสืบสวน กรณีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์”
- เนื่องจากมีการยื่นหนังสือร้องขอให้รับเป็นคดีพิเศษ ผู้ร้องเรียนมองว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นการฆาตกรรมอำพราง
- หากจะรับเป็นคดีพิเศษจะต้องเข้า 5 เงื่อนไข อาทิเช่น คดีมีความซับซ้อน ต้องรวบรวมหลักฐานจำนวนมาก คดีมีความกระทบต่อสังคม
- ล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง
วันนี้ (28 มี.ค. 65) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติเวชวิทยา สตช. และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันประชุมเพื่อวางแผนสืบสวน กรณีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” เนื่องจากมีการยื่นหนังสือร้องขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้ร้องเรียนมองว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นการฆาตกรรมอำพราง มีผู้มีอิทธิพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน เบี่ยงเบนประเด็นการชันสูตรการเสียชีวิต และรายละเอียดของคดีมีความซับซ้อนน่าสงสัย เหมือนจงใจทำให้คดีนี้เป็นอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่นชัดนั้น
จึงมีการเรียกทีมแพทย์ผ่าชันสูตรคุณแตงโมทั้ง 2 รอบ มาประชุม และให้ข้อมูลกับคณะกรรมการเป็นครั้งแรก และขอพยานหลักฐานมาประกอบสำนวนการประชุม และส่งมอบให้อนุกรรมการเพื่อส่งต่อไปยังคณะกรรมการที่มี นายวิษณุ เครืองาม ประธานคณะกรรมการคดีพิเศษชุดใหญ่ พิจารณา ก่อนสรุปว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ
หากจะรับเป็นคดีพิเศษจะต้องเข้า 5 เงื่อนไข คือ คดีมีความซับซ้อน ต้องรวบรวมหลักฐานจำนวนมาก คดีมีความกระทบต่อสังคม กระทบความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีผู้มีอิทธิพล และนายพลอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะต้องประมวลจากข้อเท็จจริงที่ปรากฎ
ทางด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบคดีดังกล่าว ยืนยันว่า การเสียชีวิตของ น.ส.นิดา กระทบต่อความมั่นคง และภาพรวม และเป็นความผิดต่อคดีอาญาแผ่นดิน แม้ว่ามารดาของนักแสดงสาวจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
DSI รับเรื่องสืบสวน ‘คดีแตงโม’
โดยผลการประชุม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้เรื่องนี้ตัวผู้เสียหายโดยตรงจะมิได้มาร้องขอ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่สาธารณชนมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ประกอบกับเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐมีหน้าที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้ทำการสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาต่อไป โดยได้เชิญคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรพลิกศพ มาประชุมร่วมกันในวันนี้
จากการประชุมกับคณะแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง ได้รับทราบผลการชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ผลการผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่ 1 โดยแพทย์นิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการชันสูตรพลิกศพ ครั้งที่ 2 โดยคณะกรรมการการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีรองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นประธานกรรมการ พบว่าผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปในทิศทางเดียวกันและทำให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการตรวจชันสูตรพลิกศพ โดยได้รับฟังข้อเท็จจริงทางคดีและข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ หลังจากนี้ คณะพนักงานสืบสวนจะเร่งเดินหน้าแสวงหาหลักฐานทางคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
“กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะบูรณาการการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนการค้นหาความจริงและทำความจริงในเรื่องนี้ให้ปรากฏ เพื่อให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่น ต่อกระบวนการยุติธรรม”
ภาพ : MThai / กฤติกร จิตติอร่ามกูล