คัดลอก URL แล้ว

บอย โกสิยพงษ์

บอย โกสิยพงษ์
ชื่อเล่น : บอย

ประวัติ บอย โกสิยพงษ์
บอย โกสิยพงษ์ มีชื่อจริงว่า ชีวิน โกสิยพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2511 เป็นลูกคนกลางของครอบครัวโกสิยพงษ์ เริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ด้วยพื้นฐานความรัก ความชอบในด้านการ์ตูน และเสียงดนตรีตั้งแต่เด็ก บอยเริ่มแต่งเพลงประกอบการ์ตูนที่เขียนขึ้นเองตั้งแต่อยู่ชั้นประถมปีที่ 6 เมื่อเริ่มโตขึ้น บอยสนใจที่จะศึกษาต่อเกี่ยวกับเรื่องที่ชื่นชอบทั้งด้านการ์ตูนและดนตรี ในครั้งแรกนั้นบอยตั้งใจที่จะเรียนต่อเกี่ยวกับด้านการ์ตูนอย่างจริงจัง แต่ด้วยอุปสรรคบางประการทำให้ไม่สามารถเรียนได้ บอยจึงเบนเข็มไปหาด้านดนตรีซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่รักและชอบเช่นเดียวกัน

 

บอยเลือกศึกษาในด้าน song writing, electronic music และ music business จาก UCLA (University of California at Los Angeles) สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ศึกษาจบมา ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน บอยเป็นนักแต่งเพลงอิสระที่ทำงานให้ทั้งศิลปินเพลง และเพลงประกอบโฆษณา หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนถนนสายดนตรีอยู่ระยะหนึ่ง

บอยก็ร่วมกับพันธมิตรด้านดนตรีอีกสามคน คือ กมล สุโกศล แคลปป์, สมเกียรติ อริยชัยพาณิชย์ และ สาลินี ปันยารชุน ก่อตั้งบริษัท เบเกอร์รี่ มิวสิค ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2537 โดย เบเกอร์รี่ มิวสิค คือค่ายเพลงที่เน้นงานเพลงทำเองซึ่งขายความเป็นตัวตนของศิลปิน ศิลปินเบอร์แรกของค่าย อย่าง โมเดิร์น ด็อก นั้นประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถแจ้งเกิดจนกลายมาเป็นหนึ่งสิลปินไอดอลของคนรุ่นใหม่ในเวลาต่อมา

การทำงานในนามนักแต่งเพลง และผู้บริหารเบเกอร์รี่ มิวสิค ของ บอย โกสิยพงษ์ นั้นเป็นที่กล่าวถึง และจับตามองในวงกว้าง เพลงของเบเกอร์รี่ที่ผ่านจากปลายปากกาของบอย เน้นไปในทางเพลงรัก โรแมนติก ที่ทั้งอบอุ่นและมองโลกอย่างเข้าใจ เพลงส่วนมากของบอยจะเป็นเพลงในมุมบวกและแฝงไว้ด้วยความเป็นปรัชญาให้แง่คิด เพลงที่โด่งดังและสร้างชื่อให้กับบอย คือเพลงให้กำลังใจและแง่คิดดีๆ อย่าง ฤดูที่แตกต่าง นั่นเอง
 
หลังจากการเติบโตที่รวดเร็วของ เบเกอร์รี่ มิวสิค บอยก็เริ่มขยายกิจการงานในบริษัทไปสุ่สิ่งที่เขารักและชอบด้านอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของการ์ตูนซึ่งเป็นหนึ่งความรัก ความชอบของเขาตั้งแต่เด็กๆ นั้น บอยเริ่มก่อตั้งบริษัท BeBoyd ขึ้นมาสร้างงานการ์ตูนอนิเมชั่นและคอมมิกส์โดยเฉพาะ ส่วนบริษัทเพลง หุ้นส่วนอย่างสมเกียรติก็ตั้งบริษัท โดโจ ซิตี้ ขึ้นมาทำงานเพลงเด็กสาววัยรุ่นสดใส ซึ่งต่างไปจากแนวที่เบเกอร์รี่ทำ นอกจากนี้ยังมีการผลิตนิตยสารในเครืออกมาอีกสองเล่มคือ Katch และ Manga Katch
 

การประสบความสำเร็จที่ส่งผลให้เกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดด บวกกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจทำให้บริษัท เบเกอร์รี่ มิวสิค จำต้องควบรวมกิจการเข้ากับบริษัท บีเอ็มจี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในปีพ.ศ. 2543 หลังจากนั้นทางบริษัท บีเอ็มจี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ต้องรวมกิจการเข้ากับบริษัท โซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ไทยแลนด์ จนเกิดเป็นบริษัท โซนี่บีเอ็มจี มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด และ เบเกอร์รี่ มิวสิค ก็กลายเป็นค่ายย่อยของบริษัทดังกล่าวในที่สุด
 
หลังการควบรวมของกิจการ ทีมผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง เบเกอร์รี่ มิวสิค ก็ตัดสินใจลาออก แล้วแยกย้ายกันไปเดินบนเส้นทางที่ตัวเองรัก บอย โกสิยพงษ์ ที่ยังคงรัก และชอบเรื่องดนตรี ก็เปิดค่ายเพลงเล็กๆ ที่เขาภาคภูมิใจที่จะเรียกว่า สหกรณ์ทางดนตรี ที่ชื่อ Love Is (เลิฟ อีส) ในปีพ.ศ. 2547 ร่วมกับ สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์ ต่อมาสุกี้ขอแยกตัวออกไปทำงานด้านวงการโทรทัศน์และธุรกิจส่วนตัวอย่างอื่น บอยจึงลดขนาดองค์กรจนกระทั่งปัจจุบัน เลิฟ อีส จึงเป็นบริษัท โปรดักชั่น เฮาส์ ที่ยังคงผลิตผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับชีวิตส่วนตัวของ บอย โกสิยพงษ์ เขาเป็นคาทอลิกที่ยึดมั่นในหลักคำสอนมาก ทุกวันอาทิตย์เขาจะต้องไปโบสถ์ที่สุขุมวิท ซอย 16 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ที่โบสถ์แห่งนั้นเขาได้พบกับ ปุ๊ –อัญชลี จงคดีกิจ จนเป็นที่มาของการร่วมงานเพลงกันในเวลาต่อมาหลายต่อหลายคร้ง นอกจากนี้บอยยังมีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น โดยสมรสกับ วรกัญญา โกสิยพงษ์ มีลูกสาวด้วยกันสองคน คือ น้องดีใจ และ น้องใจดี โกสิยพงษ์