ดนุพร ปุณณกันต์
นายดนุพร ปุณณกันต์ มีชื่อเล่นว่า บรู๊ค เป็นหลานชายของ พลเอกพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง นอกจากนี้นายดนุพรยังเป็นน้องชายของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552 นายดนุพรได้เข้าพิธีสมรสกับ นางสาวสุวนันท์ คงยิ่ง (กบ) หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 10 ปี
ประวัติด้านการเมือง
นายดนุพรเริ่มเล่นการเมืองด้วยการเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทยและดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2548 ในเขตสาธรและยานนาวา กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้รับเลือก ต่อมาในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2548 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๕๔๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายดนุพร ปุณณกันต์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่นายดนุพรก็ต้องยุติหน้าที่เมื่อ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และการเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน (พรรคประชาธิปัตย์, พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน) ได้ประกาศบอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง โดยนายดนุพรได้รับเลือกด้วยคะแนนมากกว่า 20% ของเขต แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีมติให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ และกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2549 แต่การเลือกตั้งจำเป็นต้องยกเลิกไปเนื่องจากเกิดการรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ซึ่งนำโดยพลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 จนกระทั่งวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย ร่วมกับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า, พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคพลังแผ่นดิน แต่ให้ยกคำร้องพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารคนละ 5 ปี รวม 148 คน (พรรคไทยรักไทย 111 คน, พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า 15 คน, พรรคพัฒนาชาติไทย 19 คน และพรรคพลังแผ่นดิน 3 คน) โดยทางกลุ่มไทยรักไทยได้มีมติให้สมาชิกพรรคย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน เนื่องจากมีอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน และได้ก่อตั้งมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ในเวลาต่อมาด้วย
ต่อมานายดนุพรลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งใน เขต 7 กรุงเทพมหานคร (บางกะปิ, สะพานสูง, มีนบุรี และ ลาดกระบัง) ในนามพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 1 ของเขตเลือกตั้ง แต่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน ร่วมกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคคนละ 5 ปี รวม 109 คน (พรรคพลังประชาชน 37 คน,พรรคมัชฌิมาธิปไตย 29 คน และพรรคชาติไทย 43 คน) ทำให้นายดนุพรและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ของพรรคต้องย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยนอกจากจะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ปัจจุบันนายดนุพรยังดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร, เลขานุการภาคกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านอีกด้วย
อดีต
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
รองโฆษกพรรคพลังประชาชน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชาชน
โฆษกคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน
ปัจจุบัน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
โฆษกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
เลขานุการภาคกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย
ผลงานละครโทรทัศน์
- อีสา ระวีโชติช่วง
- ลูกตาลลอยแก้ว
- สวรรค์เบี่ยง
- ตั้งไข่ล้ม พรหมไม่ลิขิต
- ราคนครา
- หัวใจสองภาค
- เงาใจ
- คำมั่นสัญญา
- บอดี้การ์ดสาว
- นางมาร
- เหยี่ยวสาวมือใหม่
- พรพรหมอลเวง
- สะใภ้ซ่าส์ แม่ย่าเฮี้ยน
- ฟ้าใหม่
- 7 พระกาฬ
- กลับบ้านเรานะ…รักรออยู่
- พยัคฆ์ร้ายหัวใจจิ๋ว
ผลงานพิธีกร
– รายการ I-STYLE
– รายการเวลาพารวย (พ.ศ. 2543)
– รายการทำจริงไม่จน (พ.ศ. 2549 – 2550)
– รายการ 07 โชว์