เฟรดดี้ ไฮร์มอร์ มีชื่อจริงว่า อัลเฟรด โทมัส ไฮร์มอร์ เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ เป็นที่รู้จักในภาพยนตร์เรื่อง เนเวอร์แลนด์ แดนรักมหัศจรรย์ , ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต , ออกัส รัช และ ตำนานสไปเดอร์วิก เปิดคัมภีร์ข้ามมิติมหัศจรรย์ เฟรดดี้เกิดขึ้นมาในครอบครัวนักแสดง แม่ของเขามีอาชีพคัดนักแสดง ซึ่งเธอเป็นผู้ที่คัดนักแสดงที่มีชื่อเสียง เช่น แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และพ่อของเขา เอ็ดเวิร์ด ไฮร์มอร์ เป็นนักแสดง เขามีน้องชาย ชื่อ อัลเบิร์ด เกิดในปี พ.ศ. 2538 เฟรดดี้อาศัยอยู่ที่ไฮล์เกต หมู่บ้านทางตอนเหนือของอังกฤษ และศึกษาที่โรงเรียนไฮล์เกต
เฟรดดี้เริ่มการแสดงในส่วนหนึ่งของรายการโทรทัศน์ เมื่ออายุ 7 ขวบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 เขาแสดงเป็น ปีเตอร์ ในเรื่อง เนเวอร์แลนด์ แดนรักมหัศจรรย์ เขาได้รับการเสนอชื่อและได้รับรางวัลในหลายสาขารางวัล รวมทั้ง สมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2547 เขาแสดงเป็น ชาร์ลี บัคเกต ในภาพยนตร์เรื่อง ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต คู่กับ จอห์นนี่ เดปป์ เฟรดดี้ ปรากฏตัวอีกครั้งใน ออกัส รัช แต่ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุด คือ ตำนานสไปเดอร์วิก เปิดคัมภีร์ข้ามมิติมหัศจรรย์ ซึ่งเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 โดยแสดงเป็นฝาแฝดสองคน ไซมอน เกรซ และ จาเร็ด เกรซ เขายังแสดงและพากย์เสียง ในภาพยนตร์เรื่อง อาร์เธอร์ ทูตจิ๋วเจาะขุมทรัพย์มหัศจรรย์ และพากย์เสียงในภาพยนตร์ อภินิหารเข็มทิศทองคำ เฟรดดี้จะพากย์เสียงตัวละครหลักในภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่อง เจ้าหนูปรมาณู
Finding Neverland เนเวอร์แลนด์ แดนรักมหัศจรรย์ (2004)
เมื่อ เจ. เอ็ม. แบร์รี่ หรือ เซอร์เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ (จอห์นนี่ เด็ปป์) อดีตนักเขียนดาวรุ่งไฟแรง กำลังมองดูผลงานประพันธ์ของตัวเอง ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นละครเวทีเรื่องล่าสุดของเขาอย่างหมดไฟ ณ จุดนั้น แบร์รี่รู้ดีว่า ผลงานของเขานั้นไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่อีกแล้ว แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่เขารู้ตัวว่า เขานั้นกำลังต้องการแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง และแล้วเช้าวันหนึ่งอันเงียบสงบ ในสวนสาธารณะเคนซิงตันการ์เด้นส์ แบร์รี่และสุนัขพันธุ์เซนท์เบอร์นาดของเขาก็มีอันสะดุดลง เมื่อเขาพบกับเด็กชาย 4 คน แห่งครอบครัวเลเวอลิน-เดวี่ส์ และแม่ของพวกเขา ซิลเวีย (เคท วินสเลต) แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น…
แม้ว่าแบร์รี่จะได้รับเสียงคัดค้านจาก เอ็มม่า ดู มอริเย่ร์ (จูลี่ คริสตี้) ย่าของเด็ก ๆ และภรรยาของเขาเอง แมรี่ (ราดาห์ มิตเชลล์) แต่เขาก็ยังคงใช้เวลากับเป็นจำนวนมาก กับเด็กน้อยที่ 4 คนต่อไปในการเล่นสนุก สรวลเสเฮฮา ปลอมตัว เล่นเกมต่าง ๆ และสร้างโลกแห่งจินตนาการที่มีปราสาท, กษัตริย์, คาวบอย, อินเดียนแดง, โจรสลัด และลูกเรือ แบร์รี่สร้างโลกจินตนาการของเด็ก ๆ ขึ้นมา โดยยึดเอาเนินเขาเตี้ย ๆ นั้นเป็นเสมือนกับกราบเรือ พร้อมกับพกกิ่งไม้ที่เป็นเสมือนดาบวิเศษศักดิ์สิทธิ์ และเด็กน้อยทั้ง 4 ก็คือ The Lost Boys of Neverland
แล้วเรื่องราวสนุกสนานและการผจญภัยของเด็ก ๆ ก็กลายมาเป็นผลงานเขียนระดับมาสเตอร์พีซเรื่อง ปีเตอร์ แพน แม้ว่าหลายคนกำลังกังวลว่า ผลงานครั้งนี้ของเขานั้นอาจไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าหนึ่งในบุคคลสำคัญที่เชื่อมั่นในตัวเขาตลอดมาก็คือ ชาร์ลส์ ฟรอห์แมน (ดัสติน ฮอฟฟ์แมน) แล้วเขาก็ช็อคนักแสดงนำของเขา ในการซ้อมการแสดงว่า ให้เขานั้นเหาะข้ามเวที และนักแสดงนำคนอื่นแต่งตัวแบบหลุดจินตนาการ เกินกว่าที่สังคมอังกฤษในยุคนั้นจะรับได้ ในที่สุดแบร์รี่ก็พร้อมที่จะแนะนำให้โลกได้รู้จัก… ปีเตอร์ แพน เรื่องราวโศกนาฏกรรมของโชคชะตา ที่จะทำให้ผู้ประพันธ์และทุกคนที่เขารัก และทุกคนที่รักเขา ได้เข้าใจว่า… ความเชื่อมั่นนั้นมีค่าเพียงใด
Charlie and the Chocolate Factory ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต (2005)
แทบทุกคืนในบ้านของพวกบัคเก็ต อาหารเย็นคือซุปกะหล่ำน้ำใสหนึ่งชาม ซึ่งเด็กน้อย ชาร์ลี (เฟรดดี้ ไฮมอร์) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับ แม่ (เฮเลน่า บอนแนม คาร์เตอร์) และ พ่อ (โนอาห์ เทย์เลอร์) และปู่ย่าตายายทั้งสองคู่ของเขา บ้านของพวกเขาเป็นบ้านเก่าโกโรโกโสหลังเล็กที่ใกล้จะพังเต็มที แต่เต็มไปด้วยความรัก สิ่งสุดท้ายที่ชาร์ลีเห็นจากหน้าต่างบ้าน คือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของ วิลลี่ วองก้า (จอห์นนี่ เดปป์) และเขาจะม่อยหลับไป เพื่อฝันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น..
เกือบสิบห้าปีมาแล้ว ที่ไม่มีใครเคยเห็นคนงานสักคน เข้าไปหรือออกมาจากโรงงานนั่น หรือแม้แต่ได้เห็นเพียงแวบหนึ่งของตัว วิลลี่ วองก้า เอง แต่ช่างน่าลึกลับที่ช็อคโกแล็ตจำนวนมหาศาล ยังคงถูกผลิตและส่งออกไปขายยังร้านต่าง ๆ ทั่วโลก วันหนึ่ง วิลลี่ วองก้า ได้ออกประกาศครั้งสำคัญ เขาจะเปิดโรงงานยอดนิยมและเผย “ความลับและมนตร์ขลังทุกอย่าง” แก่เด็ก ๆ ผู้โชคดีห้าคน ที่พบตั๋วทองที่ซ่อนอยู่ในแท่งช็อคโกแล็ตวองก้า ที่ได้รับการสุ่มคัดเลือกไว้ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ครอบครัวของชาร์ลีมีความสุขยิ่งไปกว่า การได้เห็นเขาได้รับรางวัล แต่คนอื่น ๆ ช่างได้เปรียบกว่ามาก เพราะว่าพวกเขาสามารถซื้อช็อคโกแล็ตได้ปีละแท่งเท่านั้นสำหรับวันเกิดของเขาจริงดังคาด เมื่อมีการทยอยประกาศข่าวจากรอบโลก ว่ามีเด็ก ๆ พบตั๋วทองแล้ว ความหวังของชาร์ลีก็ริบหรี่ลงเรื่อย ๆ คนแรกคือเด็กชายจอมตะกละ ออกัสตัส กลู๊ป (ฟิลิปส์ เวียแกล็ทซ์) ผู้ไม่เคยคิดเรื่องอื่น นอกจากการใส่ของหวานเข้าไปในปากของเขาตลอดวัน ตามมาด้วยเด็กหญิงที่ถูกตามใจจนเคยตัว เวรูก้า ซอลท์ (จูเลีย วินเทอร์) ที่พร้อมจะตีโพยตีพาย หากว่าพ่อของเธอไม่ยอมซื้อทุกอย่างที่เธอต้องการให้ ต่อมาคือ ไวโอเลต โบรีการ์ด (แอนนาโซเฟีย รอบบ์) แชมป์เคี้ยวหมากฝรั่ง ที่สนใจแต่ถ้วยรางวัลในตู้โชว์ของเธอ และท้ายที่สุด แน่นอนว่าเป็น ไมค์ ทีวี (จอร์แดน ฟราย) ผู้มักจะโอ้อวดว่าเขาฉลาดกว่าคนอื่น ๆ แค่ไหน
แต่แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิด ชาร์ลีเก็บเงินได้จากถนนที่คลุมไปด้วยหิมะ และนำมันไปซื้อช็อคโกแล็ตวองก้า ชนิดผสมเข้าเนื้อเนียนเหนียวนุ่มแสนอร่อย ด้วยความคิดเพียงว่าเขาหิวโซขนาดหนักและมันจะอร่อยแค่ไหน ที่นั่นเขาพบแผ่นสีทองข้างใต้กระดาษห่อ มันคือตั๋วใบสุดท้าย.. ชาร์ลีจะได้ไปที่โรงงาน! ปู่โจ (เดวิด เคลลี่) ของเขา ตื่นเต้นกับข่าวนี้มากเสียจนกระเด้งลุกออกจากเตียงได้ ราวกับว่าอายุน้อยลงไปหลายปีในทันทีทันใด และระลึกได้ถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกว่านี้ ตอนที่เขาเคยทำงานในโรงงาน ก่อนที่วิลลี่ วองก้าจะปิดประตูด้านที่ติดกับเมืองตลอดกาล ทั้งครอบครัวตกลงใจว่า ปู่โจควรเป็นคนที่จะไปกับชาร์ลี ในการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา
เมื่อได้เข้าไปข้างใน ชาร์ลีต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพอันน่าทึ่งที่ได้เห็นเป็นระยะ เครื่องไม้เครื่องมืออัศจรรย์ที่ส่องประกายแวววาว ด้วยการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยวองก้าเอง ซึ่งกวนส่วนผสม ส่งเสียง และผิวปาก ในระหว่างที่สร้างสรรค์ขนมแปลก ๆ ใหม่ ๆ นานาชนิด บรรดาคนงานชาว อูมปา-ลูมป้าส์ (ดีพ รอย) ที่ร่าเริง ซึ่งกำลังทำเหมืองในภูเขาขนมหวานอยู่ข้างน้ำตกช็อคโกแล็ตที่มีฟองปุด ๆ หรือการล่องเรือลูกกวาดเนื้อแข็งใสที่มีหัวรูปมังกร ไปตามแม่น้ำช็อคโกแล็ต ผ่านต้นลูกกวาดที่บิดเป็นเกลียว และหญ้าที่ทำด้วยน้ำตาลกลิ่นสะระแหน่ซึ่งกินได้ พุ่มดอกมาร์ชเมลโลว์ครีมรสเชอรี่ที่สุกและหวาน ที่นั่นกระรอกนับร้อยที่ได้รับการฝึกฝน นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงนับร้อยตัว แกะเปลือกถั่วสำหรับช็อคโกแล็ตชนิดแท่งอย่างว่องไว ยิ่งกว่าเครื่องจักรชนิดใด ๆ และตัววองก้าเองที่เป็นคนขับลิฟท์แก้ว ซึ่งขับเคลื่อนทางด้านข้าง ด้านขวาง และทุกอย่างที่เราจะนึกออก ในโรงงานอันมโหฬารและแสนมหัศจรรย์ สิ่งที่น่าทึ่งพอ กับสิ่งประดิษฐ์ที่เต็มไปด้วยสีสัน ก็คือตัวของวิลลี่ วองก้าเอง เจ้าของบ้านที่งามสง่าแต่แปลกพิสดาร เขาไม่คิดถึงอะไรอื่น นอกไปเสียจากขนมหวาน – ยกเว้นนาน ๆ ครั้ง ตอนที่เขาดูเหมือนจะคิดถึงบางอย่าง ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งเขาไม่อาจพูดถึงได้ ว่ากันว่า วองก้านั้นไม่เคยย่างกรายออกไปนอกโรงงานมาหลายปีแล้ว ที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ และทำไมเขาจึงอุทิศชีวิตให้กับการทำขนมหวานนั้น… ชาร์ลีได้แต่คาดเดา ในขณะเดียวกันที่บรรดาเด็กคนอื่น ๆ ทำตัวเกเร และคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เสียจนแทบไม่ชื่นชมกับงานประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์ของวองก้า ความโลภ ความเอาแต่ใจตัวเอง ความหยาบคายร้ายกาจ และรู้ดีไปหมด ได้นำพวกเขาไปสู่ความยุ่งยาก ที่บีบบังคับให้ต้องออกจากการชมโรงงาน ก่อนที่จะจบรายการไปทีละคน
เมื่อเหลือเพียงแค่ชาร์ลี บัคเก็ตตัวน้อย วิลลี่ วองก้าก็เผยความลับสุดท้ายของเขา รางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี: กุญแจโรงงาน หลังจากที่โดดเดี่ยวจากครอบครัวมาแสนนาน วองก้ารู้สึกว่า ถึงเวลาที่เขาจะต้องหาผู้สืบทอดจักรวาลขนมหวานของเขา ใครสักคนที่เขาเชื่อได้ว่า จะสานต่องานแห่งชีวิตของเขา และเป็นเหตุผลที่เขาจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้น เพื่อเลือกเด็กคนหนึ่งที่พิเศษสุด สิ่งที่เขาไม่เคยคาดหวังไว้ก็คือ การกระทำที่โอบอ้อมอารีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ครั้งนี้ อาจนำมาซึ่งของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่าอันหาใดเทียม เป็นการตอบแทนแก่เขา…
เส้นทางที่ชาร์ลี บัคเก็ตตัวน้อยเดินไปและกลับจากโรงเรียนวันละสองเที่ยว ต้องผ่านประตูโรงงาน ทุกครั้งที่เดินผ่าน เขาจะเดินช้า ๆ เชิดจมูกขึ้นไปในอากาศ และสูดลมหายใจลึก ๆ ยาว ๆ สูดกลิ่นช็อคโกแล็ตน่าอร่อยรอบตัวให้เต็มปอด โอ้.. เขาหลงรักกลิ่นนั้นจริง ๆ! และเขาอยากเข้าไปในโรงงาน เพื่อดูว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไร…
August Rush ทั้งชีวิตขอมีแต่เสียงเพลง (2007)
เรื่องราวมือกีต้าร์หนุ่มชาวไอริช และนักเล่นเชลโล่ ซึ่งมีโอกาสได้พบกันที่ วอชิงตัน สแควร์ ในนิวยอร์ก แต่ไม่นานทั้งคู่ก็ต้องพรากจากกัน ทิ้งให้ ออกัส รัช (เฟรชดี้ ไฮมอร์) ทารกน้อยของพวกเขา ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ออกัสนั้นเร่ร่อนอยู่บนถนนของนิวยอร์ก และได้รับการดูแลจากคนแปลกหน้าที่ลี้ลับ ออกัสได้ใช้ความสามารถพิเศษในการเล่นดนตรีของพวกเขาในการตามหาพ่อแม่ที่พลัดพรากจากเขาไปตั้งแต่เกิด และเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาแตกต่าง เขาไม่รู้ว่า พ่อแม่ของเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน แต่ประสาทการรับรู้ทางเสียงที่แสนพิเศษ ทำให้เขารับรู้เสียงของทุกสิ่งอย่างชัดเจน ทุกสิ่งคือเสียงดนตรี ในว่าจะในสายลม ในอากาศ ในแสงสว่าง สิ่งเดียวที่เขาใฝ่หาก็คือ การได้พบกับพ่อและแม่ที่แท้จริงของตน
Arthur and the Revenge of Maltazard อาเธอร์ ผจญภัยเจาะโลกมหัศจรรย์ 2 (2009)
อาร์เธอร์ (เฟรดดี้ ไฮร์มอร์) เด็กหนุ่มที่ออกเดินทางพร้อมกับ เจ้าหญิงเซเลเนีย (พากย์เสียงโดย เซเลน่า โกเมซ) และ เจ้าชายเบตาเมซ (พากย์เสียงโดย จิมมี่ ฟอลลอน) แห่งอาณาจักรมินิมัวส์เพื่อไปยังเมืองต้องห้ามที่เรียกว่า “เนโครโปลิส” ดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ของ พ่อมดมาลตาซาร์ด (พากย์เสียงโดย เจอร์ราร์ด เดอมง) ระหว่างทางพวกเขาต้องเจออุปสรรคนานัปการ ไม่ว่าจากใยแมงมุมยักษ์ที่เหนียวหนืดและลูกสมุนของพ่อมดผู้ชั่วร้าย
The Spiderwick Chronicles ตำนานสไปเดอร์วิก (2008)
การผจญภัยครั้งนี้เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวสามพี่น้องตระกูลเกรซ อันได้แก่ จาเร็ด และ ไซม่อน (เฟรดดี้ ไฮร์มอร์) พี่ชายฝาแฝดของเขา และพี่สาวชื่อ มัลลอรี่ (ซาราห์ โบลเจอร์) และแม่เฮเลน (แมรี่-หลุยส์ ปาร์คเกอร์) ทั้งสี่ชีวิตย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์สไปเดอร์วิกที่แสนโดดเดี่ยว ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านของอาร์เธอร์ สไปเดอร์วิก (เดวิด สเตรทธาร์น) ลุงทวดของพวกเขา และลูซินด้า (โจแอน พลาวไรต์) ป้าทวดของพวกเขา จาเร็ดได้พบคัมภีร์แสนประหลาด
คู่มือเส้นทางสู่โลกมหัศจรรย์รอบตัวคุณโดย อาร์เธอร์ สไปเดอร์วิก เมื่อคัมภีร์ถูกเปิด มันได้ปลดปล่อยโลกรอบ ๆ บ้านของสไปเดอร์วิค ซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ทั้งประหลาด มหัศจรรย์ และน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็น ฮ็อบก็อบลินที่เจ้าเล่ห์แต่เป็นมิตรชื่อ ฮ็อกสควีล (เซธ โรเกน) ฝูงก็อบลินตัวอันตราย และเหล่านางฟ้าและนางไม้แสนสวยและลึกลับ มีเพียงผู้ที่มองผ่าน ศิลาตาทิพย์ เท่านั้นที่จะมองเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ แต่มัลกาแร็ธ (นิค โนลเต้) ยักษ์ที่ชั่วร้ายคือสิ่งที่เป็นภัยคุกคามที่ร้ายกาจที่สุด เด็ก ๆ เริ่มรู้ตัวว่าคัมภีร์คู่มือไม่ใช่แค่ผลงานที่เกิดจากจินตนาการของลุงของพวกเขาเท่านั้น แต่มันคือกุญแจที่ไขไปสู่สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ทุกตัวที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่ และยังมอบพลังวิเศษให้กับทุกคนที่เข้าใจในความลับของคัมภีร์ด้วย ส่วนมัลกาแร็ธก็ไม่ยอมหยุดเพื่อจะให้ได้คัมภีร์นั้นมา!
The Art of Getting by วิชารัก อยากให้เธอช่วยติว (2011)
จอร์จ ซินาวอย (เฟร็ดดี้ ไฮมอร์) หนุ่มน้อยวัยทีนที่มีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการปล่อยวาง จริงๆ แล้วเขาใช้มันแปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบของงานศิลปะ ซึ่งแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอดปีของการเป็นนักศึกษา จนเมื่อจอร์จได้พบกับสาวสวยและเข้าถึงยากอย่างแซลลี่ (เอ็มม่า โรเบิร์ตส) ผู้ทำให้โลกที่เฉื่อยชาและหนีความจริงของเขาพลิกคว่ำ ขมำหงายอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ใครจะไปรู้ว่าความรักที่ไม่เหมือนใครและไม่ได้เตรียม ตัวตั้งรับของทั้งคู่ได้ทำให้จอร์จทำในสิ่งที่ไม่เคยมาก่อน นั่นคือเลิกนั่งแช่ไปวันๆ แล้วลุกขึ้นวิ่งไล่ตามหาความฝันของตัวเอง
The Good Doctor คุณหมอฟ้าประทาน (2017-2020)
The Good Doctor เล่าเรื่องของ ฌอน เมอร์ฟี นายแพทย์หนุ่มออทิสติกที่เริ่มต้นการทำงานเป็นแพทย์ประจำบ้านในโรงพยาบาลด้วยความช่วยเหลือของผู้อำนวยการที่มีความผูกพันกับเขามาตั้งแต่เด็ก นั่นก็เพื่อพิสูจน์ให้คนได้เห็นว่าอาการออทิสติกของเขาไม่ใช่เรื่องน่าปฏิเสธ กลับเป็นข้อดีที่ทำให้การวินิจฉัยโรคและการรักษาต่างๆ เป็นไปในแบบที่คนธรรมดาคาดไม่ถึง
ติดตามรับชมซีรีส์
The Good Doctor คุณหมอฟ้าประทาน ปี3
ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 14.10 น. ทางช่อง MONO29
(วันเสาร์ที่ 11 กันยายนนี้ เสนอเป็นตอนแรก)
===================
รับชมผ่านทีวีดิจิตอล เคเบิ้ล ดาวเทียม หมายเลข 29
Application MONO29 ที่ http://bit.ly/2GE0XdR
===================
ช่องทางการรับข่าวสารเพิ่มเติม
Instagram : Mono29TV