Rectangle17I961

โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง Nong Teng Nakleng-Pukaotong

บางกอก เมื่อ พ.ศ. 2466 ลิเกกำลังเสื่อมความนิยม มหรสพใหม่ที่เรียกกันว่าภาพยนตร์กำลังเป็นที่จับตามอง แม้ในแง่กลุ่มคนดูจะไม่ได้แย่งกันอย่างเด่นชัด แต่ในแง่ศักดิ์ศรีของความเป็นมหรสพพื้นบ้านที่สืบสานต่อกันมาจนเป็นมรดกของชาติ บัดนี้กลับถูกมหรสพต่างชาติรุกราน  วิกลิเกต้นไทร ท้ายวัดสระเกษ วิกลิเกที่ยอมรับกันว่ามีคนดูในอันดับต้นๆ ของบางกอก เพราะติดใจในเรื่องราวที่ผูกขึ้นมาไม่ซ้ำใคร และลีลาของ บุญเท่ง (เท่ง เทิดเถิง) กับ ลิ้นจี่ (อิสรีย์ สงฆ์เจริญ) คู่พระนางสายเลือดแท้ๆ ของนายแดงเจ้าของวิก (อุดม ชวนชื่น) ทำให้วิกลิเกแห่งนี้ยังคงสร้างความสำราญอยู่ได้

 

 

จนมีจดหมายจากทางการขอความร่วมมือ อำนวยความสะดวกให้กองถ่ายภาพฉายภาพยนตร์เรื่อง นางสาวสุวรรณ กำลังจะมาใช้สถานที่ซึ่งมีต้นไทรและภูเขาทองมองเห็นเป็นเบื้องหลัง โดยจำเป็นต้องรื้อวิก บุญเท่ง และชาวคณะ (นุ้ย ชวนชื่น และ กิ๊ฟ โคกคูน) ไม่ยอมถึงกับประกาศกร้าวให้สยามต้องเลือก ว่าถ้ามีนางสาวสุวรรณต้องไม่มีลิเกต้นไทร แน่นอนสยามเลือกนางสาวสุวรรณ  การต่อต้านการขัดขวางทุกรูปแบบจึงได้เริ่มขึ้น โดยมี น้อยโหน่ง (โหน่ง ชะชะช่า) นักเลงคุมถิ่นที่มาติดพัน ลิ้นจี่ น้องสาวบุญเท่งเข้าร่วมด้วย เรื่องราวคงจบลงโดยง่าย ถ้านางเอกที่แสดงเป็นนางสาวสุวรรณ ไม่ใช่คนเดียวคนนั้นที่ บุญเท่ง เฝ้าฝันถึง เธอชื่อ นวลจันทร์ (นิกัลยา ดุลยา) บุญเท่งกลายเป็นตัวแทนของลิเก ส่วนนวลจันทร์ก็กลายเป็นตัวแทนของภาพยนตร์เรื่องนางสาวสุวรรณไปโดยปริยาย

 

 

เกลียดตัวกินไข่ เกลียดกองถ่ายหัวใจให้ นวลจันทร์ คือคำพูดที่ใกล้เคียงสุด บุญเท่งต้องเลือก ระหว่างชาวคณะลิเกกับนวลจันทร์ ส่วนน้อยโหน่งยังไงก็เลือกลิ้นจี่อยู่แล้ว แต่ถ้าการขัดขวางนี้ไม่สำเร็จความรักของเขาก็หมดอนาคตด้วย เรื่องราวของความรัก บนศักดิ์ศรีแห่งความเป็นศิลปิน บุญเท่ง และ น้อยโหน่ง จำต้องทำตัวเป็นนักเลง

 

Watch Video