- HOME
- LIVE TV
- MOVIE
- MONO ORIGINAL
- SERIES
- PROGRAM SCHEDULE
- RERUN
- TV SHOW
- NEWS
- MOVIE & SERIES TALK
เรื่องราวในภาคต่อจากภาคก่อนหน้า ที่ยังคงความมันส์ตามแบบฉบับของเจสัน บอร์น
เราพบบอร์นใช้ชีวิตในฐานะชายที่ไร้ชาติหรืออดีต เพราะเคยได้รับการฝึกอย่างหนักซึ่งเขาจำไม่ได้ โดยคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร บอร์นจึงกลายเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นอาวุธร้าย และกลายเป็นเป้าหมายที่ซีไอเอตามร่องรอยได้ยากที่สุด นับแต่ถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อหลายปีก่อน บอร์นได้ออกตามหาความจริงว่าเขาเป็นใคร และเพื่อค้นหาตัวคนที่สอนให้เขาฆ่าคน
จนกระทั่งเรื่องราวที่ปรากฎบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้อกับเขา ทำให้บอร์นพบว่า ตนเองกลับมาเป็นเป้าหมายอีกครั้ง จากผลพวงของการเป็นหนึ่งในมือสังหารในโครงการลับของรัฐบาล
ซึ่งความต้องการที่จะหาคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ทำให้บอร์นใช้สิ่งที่เคยได้เรียนรู้มาทุกอย่าง เพื่อตามหาคำตอบ
…
ในภาคแรก The Bourne Identity (2002) เริ่มต้นเรื่องราวสายลับความจำเสื่อม ตัวละครที่ตื่นมาโดยไม่รู้ว่าตัวเองมีอดีตอย่างไรและเป็นคนสัญชาติไหนกันแน่ และภาคสอง The Bourne Supremacy สาธิตความเก่งกาจของสายลับที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ เมื่อถึงบทสุดท้ายของไตรภาค The Bourne Ultimatum ทั้งบอร์นและผู้ชมจะได้คลี่คลายปริศนานั้นพร้อมๆ กัน
หนัง Bourne เลือกใช้โลเคชันในยุโรปเป็นหลัก และหลายฉาก อาทิเช่น การขับรถไล่ล่า ตามซอกตึกที่คับแคบ ก็กลายเป็นความสนุกสนานเร้าใจไปอีกแบบ ต่างจากการไล่ล่าบนถนนไฮเวย์อันกว้างใหญ่ในอเมริกาที่คนดูคุ้นตา
The Bourne Ultimatum กำกับโดย พอล กรีนแกรสส์ คนเดิมจากภาคที่แล้ว เนื้อเรื่องก็ต่อจากเดิมและจะวนไปยังจุดเริ่มต้น คลี่คลายปมจากภาคแรกว่า เจสัน บอร์น เป็นใครมาจากไหนและกลายมาเป็นสายลับชื่อนี้ได้อย่างไร การตามล่าเพื่อล้างแค้นแทนคนรักของบอร์น ที่ถูกสังหารโหด และตามหาตัวเองของบอร์น ขยายพรมแดนออกไปอีกหลายพื้นที่ ตั้งแต่มอสโก, ปารีส มาดริด ลอนดอน และนิวยอร์ก
ในภาคนี้บอร์นทั้งตามล่าและหนีการไล่ล่าขององค์กรลับที่พยายามสร้างมือสังหารสมบูรณ์แบบ โดยไม่หลงเหลือจิตใจมนุษย์ไว้ และบอร์นถือเป็นชิ้นส่วนที่พวกเขาต้องการกำจัด พระเอกของเราจึงต้องตามหาตัวต้นเหตุและชิงลงมือก่อน การชิงไหวพริบและตามหาผู้ร้ายหมายเลขหนึ่ง
นอกจากโลเคชันแปลกตาหลายเมืองแล้ว พอล กรีนแกรสส์ ยังใช้วิธีการถ่ายภาพแบบแบกกล้องตามนักแสดง เหมือนงานสารคดีกล้องไล่บันทึกภาพสิ่งที่เกิดขึ้น มีผลต่อความรู้สึกเกี่ยวพันในเหตุการณ์ ระหว่างผู้ชมกับตัวละครไม่น้อยทีเดียว ขณะที่การตัดต่อฉับไวอาจจะเป็นการกระตุ้นผู้ชมมากไปอยู่สักหน่อย
แต่การที่แม็ตต์ เดม่อน แสดงเป็นสายลับเสน่ห์ด้าน กลับกลายเป็นข้อดีให้ตัวละครนี้น่าสงสาร และชวนคนดูลุ้นไปกับเขาได้
Cast : Matt Damon Joan Allen Julia Stiles
Diroctor : Paul Greengrass
Watch Video