- จากผลงานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับเรื่อง ความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อลูกแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน มีแนวโน้มส่วนใหญ่ว่าเป็นไปได้
- จะเป็นความจริงมั้ย? ในประเด็นที่ว่า “พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน” อาจจะมีสมาชิกในครอบครัวหลายครอบครัวที่กำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่ ลองไปอ่านผลงานวิจัยต่อไปนี้
1.ร้อยละ 70 ของพ่อแม่มักจะมี “ลูกรัก”
ผลงานวิจัยนักวิจัยอเมริกัน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่าร้อยละ 70 ของพ่อแม่มักจะมี “ลูกรัก” ที่รักมากกว่าลูกคนอื่น ๆ แม้จะเป็นลูกในสายเลือดที่คลานตามกันมา นักวิชาการเชื่อว่า หากพูดกันจริง ๆ แล้ว พ่อแม่ทุกคนล้วนแต่มีความรักที่ 2 มาตรฐานที่ให้กับลูกแต่ละคน
2.ครอบครัวที่มีลูกสองคน มีท่าทีว่ารักลูกคนโตมากกว่าลูกคนเล็ก
ผลการวิจัยของนักวิชาการอังกฤษแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล เผยว่า ครอบครัวที่มีลูก 2 คน มีท่าทีว่าพ่อแม่จะรักลูกคนโตมากกว่าลูกคนเล็ก โดยสังเกตได้จากพฤติกรรม เช่น เมื่อลูกคนแรกเกิดมาจะได้รับความเอาใจใส่มากกว่า ทั้งการเลี้ยงดู ความเสน่หา รางวัลของขวัญ ได้รับความเอาใจใส่จากพ่อแม่อย่างเต็มที่ และลูกคนโตมักจะมีไอคิวที่สูงกว่าอาจเพราะมาจากการได้อาหารการกินที่ดีกว่าลูกคนอื่นๆ
3.พ่อแม่ทั้งโลกรักลูกไม่เท่ากัน และจะรักลูกคนที่มีบุคลิกคล้ายตัวเองมากกว่า
95% ในหนังสือเบสต์เซลเลอร์ เผยว่าพ่อแม่ทั้งโลกรักลูกไม่เท่ากัน และมักจะชอบโอ๋ลูกคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษด้วย โดยพ่อแม่อีก 5% มักจะเป็นพวกที่โกหกตัวเองไม่ยอมรับความจริงว่ารักลูกไม่เท่ากัน จากผลการศึกษาข้อมูลแบบเจาะลึก ทำให้ค้นพบว่าลูกชายคนโตจะเป็นที่โปรดปรานของแม่โดยธรรมชาติ ขณะที่ลูกสาวคนเล็กซึ่งมีแนวโน้มขี้อ้อนมักได้รับการโอ๋จากพ่อ นอกจากนี้ยังพบอีกว่า พ่อแม่มีแนวโน้มจะรักลูกคนที่มีบุคลิกคล้ายตัวเองมากกว่า เนื่องจากทำให้ย้อนนึกถึงตัวเองในช่วงวัยเด็ก
4.พ่อแม่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มรักลูกคนโตมากกว่าลูกคนต่อๆ ไป
ผลการสำรวจและวิจัยของ ศาสตราจารย์ แคทเธอรี ตู สาขาการพัฒนามนุษย์และครอบครัวการศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะให้ความรักกับลูกคนโตมากกว่าลูกคนต่อๆ ไป และยังได้มีการสำรวจความคิดเห็นของลูกด้วย พบว่าเด็ก ๆ จะรู้สึกว่าได้รับความรักจากพ่อแม่ไม่เท่ากัน และรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากพ่อแม่ด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก : independent.co.uk, th.theasianparent, bangkokbiznews