วันที่ 17 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง -วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 บริเวณถนนพระราม 2 ทรุดตัว
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้กล่าวเปิดการประชุม โดยระบุว่า วันนี้จะมาคุยในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงต้องขอขอบคุณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนเลย เพราะตอนเปิดข่าวมาเห็นนายสุริยะ ลงพื้นที่ไปหน้างานเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องของการก่อนสร้างที่สะพานพระราม 2 และทางด่วนพระราม 3 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลงนามในรัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะสร้างปัญหาและเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แอคชั่นแต่ละครั้งที่ออกมาจึงอยากให้มีสาระสำคัญมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงกระทรวงคมนาคมกันช่วยดูแล เพราะบางทีบริษัทใหญ่ๆที่รับเหมา มีการใช้ผู้รับเหมารายเล็กด้วยจึงไม่แน่ใจว่ามีมาตรฐานหรือไม่ แต่อยากให้เกิดความรับผิด
ขณะที่ เรื่องของที่ปรึกษาของโครงการฯ ผู้รับผิดชอบในวิชาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าการทำโครงการนี้ได้มีการละเลยกระบวนการต่างๆหรือไม่ และการควบคุมการก่อสร้างเป็นไปตามข้อกำหนดและเกณฑ์ต่างๆหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องเกิดความรับผิดชอบทางอาญาด้วย เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งต้องดูด้วยว่าปัญหาซับซ้อนแค่ไหนและมาอย่างไร ต้องถึงขั้นยึดใบอนุญาติหรือไม่ จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและคิดเลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผู้รับผิดชอบด้านไหนบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า นายสุริยะ ตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากให้โครงการก่อสร้างพระราม 2 ต้องเสร็จให้เรียบร้อย แต่อุบัติเหตุและปัญหาต่างๆเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการเสียชีวิตของคน เพราะฉะนั้นต้องชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบต่างๆ
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต้องดูในรายละเอียดของการสอบสวนด้วยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สอบสวนต่อในเรื่องนี้และให้คำแนะนำ เผื่อว่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอยากให้ชัดเจน จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบเป็นครั้งๆเมื่อเกิดเหตุขึ้นในอนาคต พร้อมฝากดูในเรื่องของการจราจรและความปลอดภัยด้วย เพราะได้ฟีดแบคมาว่าติดมากและไม่คล่องตัว เพื่อให้เรียบร้อยมากขึ้น
ด้าน นายสุริยะ กล่าวถึงภาพรวมสิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมา ซึ่งต้องยอมรับว่าถนนพระราม 2 เป็นปัญหาซ้ำซาก และเหตุที่เกิดขึ้น กระทรวงคมนาคมไม่เคยปัดความรับผิดชอบ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวง ให้ไปดูแลเรื่องความปลอดภัย และเข้มงวดกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้เชิญผู้รับเหมามาพูดคุย และเน้นย้ำ ไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอีก แต่ในที่สุดก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก จึงมีมาตรการสมุดพก ที่จดบันทึกแต่ละครั้งว่า มีอุบัติเหตุกี่ครั้ง หากมีกรณีเสียชีวิตจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้ประสานกับกรมบัญชีกลางว่าจะสามารถขึ้นแบล็คลิสต์หากพบมีผู้เสียชีวิต ห้ามบริษัทนั้นมาประมูลงานใหม่ 1-2 ปี หากบริษัทผู้รับเหมาถ้าทำไม่ได้ และยังเกิดอุบัติเหตุอยู่ ก็จะส่งผลถึงอนาคต ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ไม่มีรายได้ เชื่อว่ามาตรการนี้น่าจะได้ผลมากกว่าการพูดคุยแบบปากเปล่า ซึ่งกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง ได้ให้ความร่วมมือในการแก้กฎเกณฑ์เป็นอย่างดี ยืนยัน นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการก่อสร้างนั้นมีความล่าช้า วันนี้จึงมาพูดคุยกันในภาพรวม
ขณะที่ การทางพิเศษได้จ้างที่ปรึกษามาดูแล โดยบริษัทที่ปรึกษานี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องทางอาญา