คัดลอก URL แล้ว
“พิพัฒน์“ เร่งเยียวยาเหยื่อ “คานก่อสร้างพระราม 2 ถล่ม” – ดูแลสิทธิแรงงาน

“พิพัฒน์“ เร่งเยียวยาเหยื่อ “คานก่อสร้างพระราม 2 ถล่ม” – ดูแลสิทธิแรงงาน

วันที่ 15 มีนาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการเร่งด่วนให้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าดูแล สิทธิแรงงาน และ มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ สะพานก่อสร้างถล่ม บริเวณพระราม 2 ซอย 17-25 ซึ่งส่งผลให้มี ลูกจ้างบาดเจ็บ 30 ราย (เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 24 ราย) และเสียชีวิต 5 ราย (แรงงานไทย 3 ราย และแรงงานต่างชาติ 2 ราย)

กระทรวงแรงงานเร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต

จากรายงานเหตุการณ์ กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการ จ่ายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ผ่าน กองทุนเงินทดแทน และกองทุนประกันสังคม ดังนี้

กรณีลูกจ้างเสียชีวิต

กรณีลูกจ้างบาดเจ็บ

“เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานและนายจ้าง กระทรวงแรงงานจะดูแลให้ลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน รวมถึงช่วยเหลือนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย” รมว.แรงงานกล่าว

ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ลดความเสี่ยงเกิดเหตุซ้ำ

กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้างทั่วกรุงเทพฯ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ การก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เครื่องจักรและวัสดุหนัก

“มาตรฐานความปลอดภัยของแรงงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด นายจ้างต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำอีก”

กระทรวงแรงงานยังสั่งการให้มีการ ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย (Safety Training) สำหรับแรงงานในภาคก่อสร้าง เพื่อเพิ่มมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของแรงงานไทย

เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต – สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม รุดเยี่ยมประสานญาติผู้เสียชีวิตพร้อมเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อชี้แจงสิทธิความคุ้มครองอันเกิดจากการประสบอันตรายอันเนื่องจากการทำงาน ให้กับทายาทผู้เสียชีวิตได้รับทราบว่าทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน ขอให้ลูกจ้างและทายาทผู้ได้รับความสูญเสีย มั่นใจว่า กระทรวงแรงงาน พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือ เยียวยาลูกจ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้รับความคุ้มครองโดยเร็วที่สุดต่อไป

  1. นายนรากร เยือกเย็น อายุ 39 ปี เป็นวิศวกร ได้รับค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้าง และชราภาพ 73,157 บาท
  2. นายรุจธร หานะสาร เลขบัตร อายุ 48 ปี เป็นช่าง ได้รับเงินทดแทน 14,000 บาทต่อเดือนเป็นระยะเวลา 120 เดือนเป็นเงิน 1,680,000 บาท ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินชราภาพ 49,206.30 บาท
  3. นายสิทธิชัย เกษรบัว อายุ 40 ปี เป็นช่างรับเหมา ปัจจุบันเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 28,800 บาท และเงินชราภาพ 130,923.90 บาท
  4. นาย ZIN KO AUNG เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลูกจ้าง บ.อิตาเลียนไทยฯ ได้รับเงินทดแทนเดือนละ 6,770.40 บาท เป็นระยะเวลา 120 เดือน เป็นเงิน 182,448 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินชราภาพ 13,795.14 บาท
  5. นาย NAIMG LIN AUNG เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลูกจ้าง บ.อิตาเลียนไทยฯ ได้รับเงินทดแทนเดือนละ 6,770.40 บาท เป็นระยะเวลา 120 เดือน เป็นเงิน 182,448 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินชราภาพ 15,152.70 บาท

ลงพื้นที่ดูแลแรงงาน – เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

ในช่วงเช้าวันนี้ เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และเข้าพูดคุยกับนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับให้ นายจ้างดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม และดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต

“กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจะช่วยเหลือลูกจ้างและนายจ้างอย่างเต็มที่ พร้อมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้เข้มข้นขึ้น” อธิบดี กสร. กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา