คัดลอก URL แล้ว
“นายกฯอิ๊งค์” ถึงจีนแล้ว! เตรียมหารือความร่วมมือแก้ปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ

“นายกฯอิ๊งค์” ถึงจีนแล้ว! เตรียมหารือความร่วมมือแก้ปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 (ตามเวลาท้องถิ่น​ปักกิ่ง ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย​1 ชั่วโมง​) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง โดยมีนางฮว่า ชุนหยิง (H.E. Mrs. Hua Chunying) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย​ รวมทั้งเอกอัครราชทูต​ ณ​ กรุงปักกิ่ง ให้การต้อนรับ​ นอกจากนี้ เด็กชายชาวจีนยังได้มอบช่อดอกไม้ให้กับนายกฯด้วย

โดยนายกฯ ให้สัมภาษ​ณ์ถึงการไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ว่า จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญของจีนทั้งนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตนเคยพบกับนายกรัฐมนตรีของจีน2-3 ครั้งแล้ว มาครั้งนี้ ก็ถือว่ามีความคุ้นเคย ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูต มายาวนาน 50 ปี จึงมีเรื่องที่จะประสานทำงานร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งซอฟต์พาวเวอร์ ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมของอนาคตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ดาต้าเซ็นเตอร์ และ พลังงานสีเขียว การใช้รถอีวี การตั้งโรงงาน และการเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิทัล

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวต่อว่า เรื่องของปัญหาความปลอดภัย และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยออกคลิปให้เอไอพูดเป็นภาษาจีน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในไทย และบอกว่าเราพร้อมดูแล นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจีน การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ก็จะไปตอกย้ำความปลอดภัย ในประเทศไทยว่าพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี และจะมีการจัดงานเทศกาลอื่น ๆ อีกมากมายทั้งปี ส่วนกรณีที่มีข่าวลือต่างๆ ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ก็ต้องไปขอความร่วมมือกับทางจีนด้วยว่า เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยเอาลงให้ด้วย ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง เพราะในประเทศไทยใช้คนละแพลตฟอร์มกับจีน เวลามีข่าวลือเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่ทราบข่าวสารพวกนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทางจีนด้วย

นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องที่เป็นปัญหา ทั้งไทยและจีน คือปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ร่วมกับ อาเซียน และอาจจะมีการแนะนำเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน ในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ ต่างๆ และในฐานะที่ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับจีน ก็จะมีการพัฒนาทักษะ และศักยภาพ ของคนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่จีนมาจัดตั้ง โดยพัฒนาคนให้มีศักยภาพ พร้อมที่จะทำงานได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่าง ๆ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนกัน รวมไปถึง การหาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับประเทศจีน เกี่ยวกับการศึกษาว่าพัฒนาคนของจีนอย่างไร ก็จะนำมาปรับใช้กับคนไทยด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่าจะมีการลงนามความตกลง ระหว่างไทย-จีน อย่างน้อย 14 ฉบับ จะสานต่อโครงการถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 และ 2 เพื่อเชื่อมโยงไทย ลาวและจีน รวมถึงสานต่อ เรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ ที่นายศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยทำไว้​ ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซอฟต์พาวเวอร์ ได้มีโอกาส พูดคุยกับ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสื่อสารระหว่างคนไทยกับจีนโดยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้มีกิจกรรมร่วมกัน และร่วมเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้​ จะมีโอกาสพบกับสมาคมธุรกิจไทยจีนและพบภาคเอกชน2-3รายด้วย นอกจากนี้ จะพูดคุยถึงขั้นตอนในการดำเนินการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีนมายังประเทศไทย

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจะเดินทางไป เมืองฮาร์บิน ซึ่งมีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่9 ซึ่งมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย จึงจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านพักนักกีฬาไทยและให้กำลังใจด้วยตัวเอง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เพื่อการนำเสนอเนื้อหาที่ดี รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากคุณใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆนั้น แสดงว่าคุณยอมรับนโยบายคุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลของเรา