แผ่นดินไหวในปัจจุบัน: ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และล่าสุดเกิดที่เขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ความรุนแรงของแผ่นดินไหวมักนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพังเป็นไปอย่างยากลำบากและใช้เวลานาน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอแนวทางเพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว
พื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวในประเทศไทย
จากกฎกระทรวงปี 2564 ระบุพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว 43 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น 3 บริเวณ:
- บริเวณที่ 1 (พื้นที่เฝ้าระวัง)
มี 14 จังหวัด เช่น กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช และพิษณุโลก - บริเวณที่ 2 (เสี่ยงระดับปานกลาง)
มี 17 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี ภูเก็ต และสมุทรปราการ - บริเวณที่ 3 (เสี่ยงระดับสูง)
มี 12 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และลำปาง
พื้นที่เสี่ยงในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2550 (22 จังหวัด) และปี 2540 (10 จังหวัด) ซึ่งสะท้อนถึงความตระหนักในความเสี่ยงที่มากขึ้น
การลดความสูญเสียจากแผ่นดินไหว
1. ออกแบบอาคารให้รองรับแรงสั่นสะเทือน
อาคารบางประเภท เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารสูง ถูกกำหนดให้ต้องมีโครงสร้างที่รองรับแผ่นดินไหว แต่สำหรับอาคารทั่วไป เจ้าของอาจเลือกเสริมความแข็งแรงได้ โดยเพิ่มต้นทุนโครงสร้างประมาณ 10%
2. เสริมความแข็งแรงให้อาคารเก่า
อาคารที่สร้างก่อนกฎหมายบังคับ ควรเสริมความแข็งแรงให้เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง
3. การให้ความรู้แก่ประชาชน
ควรให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนขณะเกิดแผ่นดินไหว เช่น
- หลบใต้โต๊ะที่แข็งแรง
- อยู่ห่างจากกระจกและตู้เก็บของ
- ออกจากอาคารทันทีเมื่อปลอดภัย
ข้อคิดจากประสบการณ์ในญี่ปุ่น
ดร.สามารถเล่าถึงประสบการณ์ขณะศึกษาที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ประชาชนญี่ปุ่นได้รับการปลูกฝังวิธีเอาตัวรอดตั้งแต่เด็ก เช่น หลบใต้โต๊ะเหล็กและหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
สรุป
แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การเตรียมพร้อมและป้องกันล่วงหน้าคือหนทางที่ดีที่สุด เพื่อให้เราสามารถลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้
เริ่มต้นวันนี้ เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยของเราและคนที่เรารัก