คัดลอก URL แล้ว
“ยุทธวิธีทางหลวงขวางนรก” ไล่ล่าโจรขโมยรถ สยบคดีระทึก พิษณุโลก

“ยุทธวิธีทางหลวงขวางนรก” ไล่ล่าโจรขโมยรถ สยบคดีระทึก พิษณุโลก


เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 14.00 น. ตำรวจทางหลวงพิษณุโลก ภายใต้การปฏิบัติงานของ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ได้รับแจ้งเหตุจากด่านตรวจท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้สกัดจับรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน กท 8437 อุตรดิตถ์ ที่ฝ่าด่านตรวจและพยายามหลบหนี

เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อรถคันดังกล่าวถูกขับแหกด่าน เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงนำกำลัง 4 นาย พร้อมรถสายตรวจ 2 คัน ไล่ล่าคนร้ายตลอดเส้นทางกว่า 50 กิโลเมตร จนสามารถสกัดได้ที่บริเวณยูเทิร์นใกล้สี่แยกสกัดน้ำมัน อำเภอเมืองพิษณุโลก คนร้ายพยายามเร่งเครื่องหนี แต่ทีมสายตรวจใช้ยุทธวิธีเฉพาะทาง ขับชนท้ายจนรถเสียหลักขึ้นเกาะกลาง

การเผชิญหน้าที่ดุเดือด
คนร้าย ซึ่งทราบชื่อในภายหลังคือ นายกรกฎ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ไม่ยอมจำนนลงง่ายๆ เขาใช้มีดพุ่งเข้าแทงเจ้าหน้าที่สองนาย ได้แก่ จ่าสิบตำรวจพีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ และ ดาบตำรวจประทีป มีอุดร ส่งผลให้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บหลายจุด

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดาบตำรวจประทีปตัดสินใจใช้ปืนยิงเตือนสองนัด กระสุนถูกคนร้ายบริเวณหว่างขาและมือขวา ทำให้สิ้นฤทธิ์ทันที ก่อนจะถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ

ปูมหลังคนร้ายและคดี
จากการสอบสวน พบว่ารถคันดังกล่าวถูกนำมาฝากขายที่เต็นท์รถในจังหวัดพิษณุโลก นายกรกฎได้แกล้งเป็นลูกค้า เข้าขอดูรถและขอลองขับ เมื่อเซลล์ลงจากรถเพื่อเตรียมเอกสาร นายกรกฎฉวยโอกาสขับหนีไป จนนำไปสู่การไล่ล่าครั้งนี้

นายกรกฎถูกแจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ, พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่

พุทธคุณคุ้มภัย-ยุทธวิธีที่แข็งแกร่ง
ทั้งสองเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บเชื่อว่าพระเครื่องที่คล้องคอช่วยคุ้มครองชีวิต ดาบตำรวจประทีปคล้อง พระพุทธชินราชอินโดจีน ปี 2485 ขณะที่จ่าสิบตำรวจพีระวัฒน์คล้อง พระนางพญา กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล. กล่าวยกย่องทีมงานที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเด็ดเดี่ยว พร้อมเน้นย้ำว่าการทำงานของตำรวจต้องอาศัย สติ ไหวพริบ และทีมเวิร์ก เป็นสำคัญ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง