คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อเนื่องอีกหนึ่งจังหวัด หลังสภาผู้แทนราษฎรปิดสมัยประชุม มีคณะผู้บริหารของพรรค อาทิ นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายประวัฒน์ อุตตโมช รวมถึงทีมโฆษกพรรคไทยสร้างไทยลงพื้นที่ โดยมีนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ให้การต้อนรับ โดยในการสัมมนา คุณหญิงเปิดใจพูดคุยกับพี่น้องประชาชนหลายภาคส่วน รวมถึงสมาชิกพรรคกว่า1,000คน เข้าร่วมพูดคุยและสะท้อนปัญหา
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ย้ำถึงแนวทางการทำงานว่า ไทยสร้างไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพและเทิดทูนสถาบัน ควบคู่ไปกับการสร้างการเมืองคุณภาพ ซึ่งต้องเริ่มจากตัวนักการเมือง ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องรู้จักเสียสละ รักษาคำมั่นที่ให้กับประชาชน มีคุณธรรมจริยธรรม ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก พรรคการเมืองจึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและมีคุณภาพ
พร้อมประกาศเอาจริงเอาจังกับการทุจริต ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทั้งการทุจริตโดยนักการเมือง การทุจริตในภาครัฐ จึงต้องทำให้การโกงหมดไปจากการเมืองไทย โดยเริ่มต้นจากพรรคการเมืองที่ต้องส่งต่ออุดมการณ์ให้กับนักการเมืองในพรรค ยึดถือเป็นแนวทางในการทำงาน ว่าการคอรัปชั่น คือมะเร็งร้ายที่กัดกินประเทศ ทำลายโอกาสของชาติและประชาชน
ขณะเดียวกันพรรคไทยสร้างไทยจะเร่งผลักดันนโยบายและกฎหมาย เพื่อช่วยพี่น้องคนไทยให้ “หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน” ถือเป็นภารกิจสุดท้าย ของคุณหญิงสุดารัตน์ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจฟืดเคือง หนี้สินครัวเรือน หนี้นอกระบบพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การแก้ไขปัญหาไม่ใช่ ทำเพียงแค่การแจกเงิน แต่ต้องแก้ไขที่โครงสร้างเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
เริ่มต้นจากการสร้างคนให้มีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาการศึกษา ด้วยนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ไม่ต้องเป็นหนี้ กยศ. พร้อมลดเวลาเรียนลง 3 ปี นำเทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถล้ำลึกมาใช้ในการเรียนการสอน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยยกระดับคุณภาพของเด็กไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในโลกยุคเมกะเทรนด์ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ต้องเริ่มจากการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน พรรคไทยสร้างไทย จึงมีนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน ให้พี่น้องเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 1 ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะเป็นทุนสำหรับตั้งตัว ต่อยอดการสร้างงานสร้างรายได้อย่างยั่งยืน หากรักษาเครดิตได้ดี จะสามารถกู้ได้ถึง 1 แสนบาท ที่สำคัญจะเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องมาจากหนี้นอกระบบ ทำให้คนตัวเล็กสามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างมีศักดิ์ศรี
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ประชากรสูงวัยเพิ่มถึง 13.4 ล้านคน หรือ 20.7% ของประชากรทั้งหมด และอาจจะถึง 35% ภายในอีก 30 ปีข้างหน้า พรรคไทยสร้างไทย จึงคิดนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทขึ้นมา เพื่อรองรับปัญหานี้ โดยผู้สูงวัยจะต้องเข้าโปรแกรมพัฒนาสุขภาพ พร้อม Upskill Reskill เมื่อร่างกายแข็งแรง ผู้สูงวัยสามารถกลับมาทำงานได้ เศรษฐกิจโดยรวมประเทศจะดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดภาระลูกหลาน ให้มีเงินตั้งตัวได้เร็วขึ้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ โดยส่งเสียงไปถึงรัฐบาล ให้ช่วยผลักดันต่อ หลังพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างกฎหมายไว้ก่อนแล้ว