คัดลอก URL แล้ว
“ทนายวิฑูรย์” นำคลิปเสียงให้กองปราบฯ เพิ่ม ปม “เจ๊พัช” เรียกเงิน “บอสพอล” 7.5 แสน

“ทนายวิฑูรย์” นำคลิปเสียงให้กองปราบฯ เพิ่ม ปม “เจ๊พัช” เรียกเงิน “บอสพอล” 7.5 แสน

วันที่ 2 ธันวาคม 2567 เมื่อเวลา 16.20 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอลและบอสดิไอคอนกรุ๊ป เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่นางสาวกฤษอนงค์ เรียกเงินจากบอสพอล 7.5 แสนบาท

ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า วันนี้ตนนำไฟล์เสียงฉบับเต็มจำนวน 6 ชั่วโมง พร้อมคำถอดเทปมาส่งให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับเข้าให้การว่าประโยคใดที่เข้าข่ายลักษณะของการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งคลิปนี้จะมีรายละเอียดชัดเจนมากกว่าคลิป 1.30 ชั่วโมงที่มอบไปก่อนหน้านี้

โดยเนื้อหาภายในคลิปก็มีการพูดคุยกันหลายอย่าง รวมถึงการทำสัญญาของ 89 คนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และจะให้คืนเงิน และในเนื้อหายังมีการพูดไปถึงข้าราชการท่านหนึ่งระดับ ผอ. ซึ่งนางสาวกฤษอนงค์มีการอ้างว่า ทำงานด้วยกัน แต่รายละเอียดการพูดถึงนั้น ตนขอไม่เปิดเผย เพราะเป็นความลับในสำนวน แต่เป็นลักษณะของการอ้างเป็นหน้าเสื่อเคลียร์แทนให้ ส่วนข้าราชการท่านนี้ จะเพียงแค่ถูกแอบอ้าง หรือจะรู้เห็นด้วยจริงๆ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

นักข่าวถามว่าข้าราชการคนดังกล่าวอยู่ในหน่วยงานที่ทำคดีหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ตอบว่า ไม่ใช่ นักข่าวจึงถามต่อว่า ใช่ สคบ. หรือไม่ ทนายวิฑูรย์ ยิ้มเล็กน้อย

สำหรับคดีของฟิล์มรัฐภูมิ นายวิฑูรย์บอกว่า ได้ให้การไปเพียงพอทั้งหมดแล้ว ซึ่งตอนแรกทีมทนายความได้เข้าแจ้งความในข้อหาพยายามฉ้อโกง แต่เมื่อมีการสอบพยาน ตำรวจก็มองว่าเข้าข่ายพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะพยานได้ให้การว่ามีความกลัวอย่างไรบ้างในตอนที่พูดคุยกัน เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงฟิล์มหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ตอบเพียงว่า ขอให้ฟิล์มโชคดี

ส่วนวันนี้ที่ได้เข้าไปเยี่ยมบอสพอลที่เรือนจำฯ มา ก็ยังไม่ได้ฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ตอนนี้จะมีเพียงออเดอร์ของทนายตั้มที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว โดยเตรียมเอาผิดฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีที่สำนักงานกฎหมายของทนายตั้มเคยแชตไลน์พูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย อ้างว่าสามารถติดต่อเจรจากับบอสพอลให้คืนเงินได้ จำนวน 7.5 ล้านบาท แต่บอสพอลยืนยันว่าไม่เคยคุยกับทนายตั้ม

เมื่อถามถึงการเตรียมยื่นประกันบอสพอลและบอสคนอื่นๆ ทนายวิฑูรย์บอกว่า ทีมทนายความก็เตรียมที่จะยื่นประกันตามสิทธิที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ ตอนนี้ดีเอสไอยังไม่ปิดสำนวน และวันนี้ก็ดูแนวทางที่ศาลอุทธรณ์ ไม่อนุญาตให้นายสามารถประกันตัวเพราะบอกว่าพฤติการณ์ของคดีร้ายแรง ซึ่งคดีของนายสามารถมีพฤติการณ์คล้ายกันกับของดิไอคอนกรุ๊ป จึงมองว่าหากยื่นไปผลก็อาจจะเหมือนกัน จึงต้องรอดูก่อน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง