เมื่อเวลา 10.25 น.วันที่ 27 พ.ย.นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความผ่าน X ระบุว่า
ตนส่งทีมงานมูลนิธิเสริมกล้าที่ร่วมก่อตั้งมาเกือบ 20 ปีลงพื้นที่ภูเก็ต ไปดูเด็กนักเรียนที่เรามอบทุนเรียนต่อเนื่องให้ 3 แห่ง โรงเรียนแรกที่ไปคือหงษ์หยกบำรุง เห็นแวบแรกก็รู้สึกดีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนให้เด็กๆ เอาขวดน้ำพลาสติกมารีไซเคิล ก็เลยถามว่าทำไมเด็กๆ ถึงดื่มน้ำขวดกัน ต้นเหตุที่เด็กๆ ต้องเสียเงินซื้อน้ำขวดทาน เพราะเครื่องกรองน้ำที่มีชำรุดและไม่มีคนมาช่วยบำรุงรักษา จริงๆ แล้วเด็กๆ ควรมีโอกาสได้บริโภคน้ำที่สะอาด ปลอดภัย และไม่ควรเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เลยส่งช่างให้เข้าไปดูเพื่อแก้ที่ต้นเหตุ โดยจะช่วยซ่อมเครื่องกรองน้ำให้ใช้งานได้พร้อมก็อกและรางเติมน้ำในโรงอาหารเสียใหม่
นายเศรษฐา ระบุว่า โรงเรียนที่สองคือบ้านป่าครองชีพ ทางผู้อำนวยการสนับสนุนการเลี้ยงไก่และปลูกโรงเห็ดให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การเกษตร แต่มีปัญหาระบบท่อน้ำที่ส่งไปโรงไก่และโรงเห็ดชำรุด น้ำไม่ไหลมานาน จะเอาน้ำให้ไก่ให้เห็ดทีก็ต้องหิ้วน้ำจากบ่อบาดาลไกลหลายร้อยเมตร ลำบากทั้งครูและนักเรียน เลยส่งช่างให้เข้าไปตรวจพบท่อที่เดินมาจากบ่อบาดาลแตกรั่ว และเตรียมเดินระบบท่อใหม่ทั้งหมด เพื่อน้ำจะได้ถึงโรงไก่และโรงเห็ด เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกังวลและลำบาก รวมถึงเดินท่อใหม่ให้เข้าเครื่องกรองน้ำที่ยังใช้งานได้ มิเช่นนั้นทางโรงเรียนต้องเสียเงินสั่งรถน้ำมาส่งสัปดาห์ละหลายร้อยบาท เลยตกลงกันว่าถ้าซ่อมท่อเสร็จแล้วทางโรงเรียนจะเอาเงินที่เคยสั่งรถน้ำไปซื้ออาหารไก่และเมล็ดพันธุ์พืชเพิ่มเติมเพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกทำการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันอย่างยั่งยืน
นายเศรษฐา ระบุอีกว่า โรงเรียนแห่งสุดท้ายที่ทีมงานลงเยี่ยมคือบ้านแหลมทราย เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในอ.ถลาง มีเด็กนักเรียนอยู่เกือบร้อยคน นักเรียนที่นี่มีทั้งเด็กไทยและเด็กพม่า ที่พ่อแม่เข้ามาทำงานรับจ้างในภูเก็ต ทีมงานสังเกตเห็นเด็กๆ กลุ่มหนึ่ง กำลังเล่นเครื่องเล่นขณะรอผู้ปกครองมารับหลังเลิกเรียน ผู้อำนวยการบอกว่าตอนนี้เหลือเครื่องเล่นที่ยังมีสภาพพอให้เด็กๆเล่นได้อยู่แค่ 2 อย่าง คือสไลเดอร์ และไม้กระดก นอกนั้นก็พังมานานแล้ว เลยได้อนุมัติจัดซื้อเครื่องเล่นให้เด็กๆ ใหม่ โดยไม่เกินปีใหม่นี้ เด็กๆจะมีเครื่องเล่นใหม่ไปเพิ่มอีก 2 ตัว เพราะการเล่นของเด็กๆ คือสิทธิที่เด็กควรจะได้รับเพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกายตั้งแต่ปฐมวัย นอกเหนือจากเรื่องการศึกษา การพัฒนาความสามารถทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จะทำให้เด็กๆ ได้ก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต