กระทรวงยุติธรรม” ไม่สบายใจ หลัง กมธ.ความมั่นคงฯ เรียกสอบ ปม นักโทษชั้น14 อ้างระเบียบข้อกฎหมาย กมธ.ไม่มีอำนาจโดยตรง-ซ้ำซ้อน ด้านที่ปรึกษารัฐมนตรี ยธ. รับ กลัว “โรม” เพราะทำงานอยู่ดีดี ถูกเรียกสอบ
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวเกี่ยวกับ กรณีที่ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือ ให้ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารส่วนที่เกี่ยวข้ง และผู้บริหาร กรมราชทัณฑ์ เข้าชี้แจง กรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังจากที่ นาย ทักษิณ ชินวัตร กลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และถูกนำตัวไปรักษาตัว ที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ จนได้รับอภัยโทษ
โดยนายสมบูรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้น อยากทำความเข้าใจกับทุกส่วน ว่า บุคลกรทั้งหมด มีหน้าที่ และความรับผิดชอบ และอยากให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน / ซึ่งที่ผ่านมา ทางสภาผู้แทนราษฎร มีการตรวจสอบ มายัง กระทรวงยุติธรรม รวม 2 ชุด ซึ่งตั้งแต่ 21ธันวาคม 2566 ทางคณะกรรมการตำรวจ ได้มีหนังสือแจ้งมายังกรมรมชทัณฑ์ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งครั้งนั้น รักษาการรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นาย สิทธิ สุธีวงษ์ ไปชี้แจ้ง ส่วน ครั้งที่สอง มีการนัดหมาย ไปดูสถานที่จริง ที่โรงพยาบาลตำรวจ มองว่ามีการตรวจสอบ จากชุดคณะกรรมการตำรวจ แล้ว
ส่วนคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีหนังสือถูกส่งมาให้เข้าชี้แจง
นั้น มีการระบุให้เข้าชี้แจ้ง ตั้งแต่ ระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารส่วนที่เกี่ยวข้อง ผอ.รพ.กรมราชทัณฑ์ ในวันที่ พรุ่งนี้ 22 พฤศจิกายน 2567
ซึ่งตนยังตอบไม่ได้ว่า ในวันพรุ่งนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้บริหารจะไปหรือไม่ และทางกระทรวงยุติธรรม รู้สึกไม่สบายใจ ในข้อกฎหมาย ที่เห็นว่า อาจไม่อยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ
และมองว่า การดำเนินการ เป็นการกระทำซ้ำซ้อนหน้าที่ ของ คณะกรรมาธิการการตำรวจ ของสภาผู้แทนราษฎร โดยตามระเบียบ สภาฯ หากเรื่องมีการพิจารณาที่ซ้ำซ้อนกัน จะต้องรวมเป็นชุดเดียวกัน
ทางกระทรวงยุติธรรมได้ทำหนังสือถึงข้อกังวลและความไม่สบายใจไปยังประธานสภาแล้วโดยลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 และส่งหนังสือนี้ไปยังสภาในวันเดียวกัน
โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หนังสือที่ทำไปนั้น มีความกระชั้นชิด กับวันชี้แจง ในวันที่ 22 พฤศจิกายน หรือไม่ โดยนายสมบูรณ์ ระบุว่า ทางกระทรวงยุติธรรมได้รับหนังสือ กมธ. มั่นคงฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่มีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และระดับผู้บริหารให้เข้าชี้แจง ซึ่งทางสำนักงานกระทรวงยุติธรรม ได้รับหนังสือวันที่ 15 พฤศจิกายน และได้ดำเนินการตามขั้นตอนขอความเห็น ตามระบบ จนมีหนังสือวันที่ 19 พฤศจิกายน ยืนยันว่า เป็นไปตามขั้นตอน
ย้ำว่า ในวันพรุ่งนี้22 พฤศจิกายน จะไปชี้แจ้ง ต่อเมื่อประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสิน มีคำสั่งมาให้ทางกระทรวงยุติธรรมเข้าไปชี้แจง ซึ่งทุกคนก็ต้องไป แต่ในขณะนี้ตนในฐานะ ผู้ได้รับมอบหมาย จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้มาแถลงข่าว ในเรื่องความไม่สบายใจในการเชิญของกรรมธิการ ความมั่นคง ซึ่งตอนนี้ ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะมีรัฐมนตรีหรือบุคคลใดจะไปชี้แจงในวันพรุ่งนี้ / ยืนยันว่าไม่ได้ห้าม
ยืนยันว่า ทางกระทรวงยุติธรรมไม่เคยหลบเลี่ยง และที่ผ่านมา ไม่เคยที่จะไม่ตอบข้อเท็จจริง หากกรรมาธิการชุดนั้นมีอำนาจตามกฎหมายหน้าที่
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง เหตุผลหนึ่งที่ทางกระทรวงยุติธรรมกลับมาพิจารณา ข้อกฎหมาย หลังจาก ไปชี้แจ้งแล้วครั้งแรก เป็นเพราะว่ามี นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ หรือไม่ จนเกิดประเด็นทางสังคม นาย สมบูรณ์ ยืนยันว่า ตนได้ดูเอกสารบันทึก ถึงผู้บังคับบัญชา ส่วนกลัวนายรังสิมันต์โรมหรือไม่
” คงกลัวเนอะ ในฐานะผู้ที่ถูกตรวจสอบ จะบอกว่าไม่กลัวก็ไม่ได้ ความกลัวหรืออะไรก็ตาม มันถูกขจัดจาก ความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ผมคิดว่าใครที่ทำงานอยู่ดีๆแล้วถูกเรียกให้ไปซักถาม ซึ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องรับผิดชอบ”
ส่วนเอกสารที่กรรมาธิการได้ไม่ครบถ้วนนั้น นาย สมบูรณ์ ตอบว่า ถ้าเป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่ไป ถ้าเป็นการส่งมอบในงานอย่างมีเหตุมีผลหรือไม่ถ้าไม่มีเหตุผลคณะกรรมาธิการก็สามารถเรียกเอกสารต่อ ผู้บังคับบัญชาได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีความกังวลใจต่อประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวทำไมถึงไม่มาชี้แจงต่อสื่อมวลชนเอง นาย สมบูรณ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีฯ ติดภารกิจ หากผู้สื่อข่าวเจอท่านเย็นนี้หรือพรุ่งนี้ ให้ลองสอบถามดู ซึ่งความจริงทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอยากมาชี้แจงด้วยตนเองอยู่แล้ว
ส่วน กระแสข่าว ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแผนเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งมีความกังวลว่าจะซ้ำรอย กับเหตุการณ์ นาย ทักษิณ ชินวัตร ทางที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่ขอตอบประเด็นดังกล่าว เนื่องจากตนได้รับมอบหมายให้ตอบคำถามให้มาแถลงเพียงข้อกังวลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเท่านั้น