นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาตั๋วเครื่องบินที่อาจมีราคาสูงในช่วงวันที่ 27-28 ธันวาคม 67 และ 1-2 มกราคม 68 เพราะมีการเดินทางโดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จำนวนอากาศยานที่สายการบินทุกสายมีอยู่ ยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด อยู่ที่ 76 ลำ หรือคิดเป็น 25% ซึ่งกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ จึงมอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุด ได้รับความร่วมมือจากสายการบินทั้ง การบินไทย และสมาคมสายการบินประเทศไทย (บางกอกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยเวียตเจ็ท) จัดทำแผนเพิ่มเที่ยวบิน ปรับชนิดอากาศยานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทำการบินทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครพนม เชียงใหม่ เชียงราย น่าน กระบี่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และสมุย
สมาคมสายการบินประเทศไทย จะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 247 เที่ยวบิน มีที่นั่งเพิ่มถึง 48,244 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนที่นั่งที่เพิ่มมานี้ มีตั๋วราคาไม่สูงรวมอยู่ด้วย เดินทางได้ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 67 ถึง 5 มกราคม 68 โดยตั๋วเที่ยวบินพิเศษได้เข้าสู่ระบบขายแล้ว
ขณะที่ การบินไทย จะปรับชนิดอากาศยานเพื่อให้มีจำนวนที่นั่งมากขึ้นในบางวัน ในเส้นทางภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นมกราคม 68 ทำให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 25,144 ที่นั่ง ดังนั้น จึงมีที่นั่งเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง
นอกจากนี้ รมว.คมนาคม ยังได้สั่งการให้ กพท. ประสานหน่วยงานด้านการบินวางแผนจัดสรรตารางเวลาการบินของสนามบิน ขอขยายเวลาการให้บริการเพื่อให้สายการบินทำการบินได้มากขึ้นทั้งช่วงเช้าและช่วงดึก และขอให้สนามบินที่มีการจราจรคับคั่งผ่อนผันเวลาการเปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
รวมทั้งจะตรวจสอบราคาค่าโดยสารในช่วงเทศกาลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ค่าโดยสารเกินกว่าราคาเพดานที่กำหนด และแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า รวมทั้งตรวจสอบค่าโดยสารผ่านช่องต่างๆ ก่อนซื้อ โดยเฉพาะการซื้อผ่านตัวแทนออนไลน์ในเวลากระชั้นชิดที่อาจพบราคาตั๋วสูงกว่าปกติ แนะนำให้ซื้อกับเว็บไซต์ของสายการบิน เนื่องจากมีการควบคุมราคา