สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ ( 12 พ.ย. ) ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ เมื่อเวลา 07:00 น พบว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.นนทบุรี กรุงเทพฯ จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.น่าน จ.สระบุรี จ.กาญจนบุรี จ.นครพนม และ จ. อุบลราชธานี
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่
ตรวจวัดได้ 10.6 – 42.2 มคก./ลบ.ม. - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่
ตรวจวัดได้ 19.5 – 42.5 มคก./ลบ.ม. - ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่
ตรวจวัดได้ 16.2 – 44.1 มคก./ลบ.ม. - ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
ตรวจวัดได้ 13.8 – 29.8 มคก./ลบ.ม. - ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
ตรวจวัดได้ 4.2 – 13.3 มคก./ลบ.ม. - กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 13 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19.0 – 53.9 มคก./ลบ.ม.
คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในช่วง 7 วันข้างหน้า
พื้นที่กทม.และปริมณฑล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 14 – 19 พ.ย. 2567 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่
▶️ 17 จังหวัดภาคเหนือ ดีอย่างต่อเนื่อง และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่
▶️ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 13 – 19 พ.ย. 2567 และดีอย่างต่อเนื่อง
▶️ ภาคตะวันออก มีแนวโน้มลดลงวันที่ 13 – 19 พ.ย. 2567 และดีมากอย่างต่อเนื่อง
▶️ ภาคใต้ ดีมากอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายว่า การระบายอากาศในช่วงวันที่ 11-20 พ.ย. นั้นจะอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีถึงอ่อน ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นเริ่มมีลักษณะปิด ส่งผลให้มีความเข้มข้นของฝุ่นละอองสูงขึ้น
สำหรับในภาคเหนือ ที่การระบายอากาศจะอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นจะมีลักษณะค่อนข้างปิด เช่นเดียวกับบริเวณภาคกลาง
นครสวรรค์พบจุดความร้อนมากสุด
สำหรับรายงานจุดความร้อนของ GISTDA พบว่า จุดความร้อนที่พบในประเทศไทย มีจำนวน 106 จุด ซึ่งมากสุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค รองจากเวียดนาม ที่พบ 141 จุด
สำหรับในประเทศไทยนั้น พบที่จ.นครสวรรค์มากที่สุด คือ 19 จุด รองลงมาคือ อุตรดิตถ์ 9 จุด โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่พบเป็นการพบจุดความร้อนในพื้นที่เกษตรเป็นส่วนใหญ่