ร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียวปี 2567 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รุกขยายตลาด เครือข่ายธุรกิจ คาดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) มีนโยบายส่งเสริม สร้างสรรค์ ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจและพัฒนาและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก รวมทั้งขับเคลื่อน Soft Power ด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี และแอนิเมชันของประเทศไทยไปสู่ระดับนานาชาติ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างประเทศเพื่อเปิดโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ๆ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการและบุคลากรด้านภาพยนตร์และ
วีดิทัศน์ในการเข้าร่วมเทศกาลและงานประกาศรางวัลนานาชาติ ดังนั้น วธ.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในต่างประเทศ (Roadshow) ประจำปี 2567 ณ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียว ประจำปี 2567 (TIFFCOM 2024) ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้วธ.ได้คัดเลือกผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์และ
วีดิทัศน์ของไทยจำนวน 9 บริษัท ร่วมออกคูหาประชาสัมพันธ์และจัดจำหน่ายผลงานในนามประเทศไทยภายในงาน TIFFCOM 2024 ได้แก่ 1.บริษัท วันเดอร์แลนด์โปรดักชั่น จำกัด 2.บริษัท เอ็ม ดิสทริบิวชั่น จำกัด 3.บริษัท ทองคำ ฟิล์มส์ จำกัด 4.บริษัท หมีเรื่องหมาเล่า จำกัด 5.บริษัท ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ จำกัด 6.บริษัท ล็อคแมน 2011 จำกัด
7.บริษัท กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด 8.บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด และ9.บริษัท ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ จำกัด
“การเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียวครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายการเจรจาธุรกิจ เพิ่มรายได้จากการขายลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายผลงานในต่างประเทศ รวมถึงขยายเครือข่ายธุรกิจและหาคู่ค้าหรือผู้ร่วมทุนใหม่ ๆ ในตลาดญี่ปุ่นและเอเซีย คาดว่าจะเกิดรายได้จากการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยและ Soft Power ด้านต่าง ๆ เช่น อาหาร แหล่งท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรม ผ่านสื่อภาพยนตร์และวีดิทัศน์สู่เวทีโลก จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย พัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างงานในประเทศและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว