วันที่ 23 ตุลาคม 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล พาพนักงาน “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” 10 คน ลงบันทึกประจำวัน หลังถูกตำรวจกักตัวสอบหลายชั่วโมง และยังยึดโทรศัพท์มือถือ
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า จากการตรวจค้นจุดสำคัญของบริษัท 11 จุดเมื่อวานนี้ การยุดทรัพย์สินไปตนเองไม่ติดใจตรงนั้น แต่สิ่งที่กังวลคือสิทธิเสรีภาพของพนักงานดิไอคอนที่เมื่อวานมีการนำพนักงานของบริษัทฯ ไปกักตัวสอบ 10 คน ทั้งเลขาบอสพอล ,ผู้จัดการทั่วไป และผู้ดูแลบริษัท ณ เวลานี้ และมีพนักงานที่เลขาบอสปัน รวมถึงน้องสาวบอสพอลที่โดนคุมตัวไปด้วย ซึ่งในมุมตนเองรู้สึกไม่โอเคตรงที่เข้ามาเชิญตัวโดยไม่มีหมาย จากการสอบถามพนักงานทราบว่าเขียนหมายบริเวณหน้างาน ก่อนนำตัวพนักงานมาสอบปากคำที่กองปราบฯ และยังปิดมือถือห้ามติดต่อคนภายนอก หากติดต่อคนภายนอกให้เปิดสปิกเกอร์โฟน ตนมองว่ามันเป็นสิ่งที่เกินเลย และขออย่าเกินเส้นของกฎหมาย หรือเกินสิทธิเสรีภาพ จึบมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน. พหลโยธิน เพื่อให้เป็นข้อมูลที่ชิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เผื่ออนาคตหากมีความจำเป็นต้องใช้
โดยวันศุกร์ (25 ต.ค.) จะพาไปร้องพนักงานไปร้องคณะทำงานจเรตำรวจ ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ตำรวจชุด ปคบ.2 และ ปคบ.3 ลงพื้นที่ ว่าทำหน้าที่ในกรอบอำนาจของกฎหมายหรือไม่ และอาจจะไปร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จากการสอบถามพนักงาน ทุกคนถูกให้เซ็นยินยอมให้ยึดมือถือ เพราะเข้าใจว่าหากไม่เซ็นก็จะไม่ได้กลับบ้าน ตำรวจไม่ได้ข่มขู่ตรงๆ แต่มีท่าทีที่ทำให้กดดัน
ส่วนคลิปเสียงที่บอสพอลบันทึกไว้ ได้ส่งมอบให้ตำรวจ แล้ว ซึ่งมีความจุ 1.86 จิกะไบต์ ส่วนโทรศัพท์จากพนักงาน 10 คน ถูกยึด 10 เครื่อง ได้คืนมาแล้ว 3 เครื่อง
ส่วนเมื่อวานนี้ได้เข้าไปเยี่ยมบอสในเรือนจำ เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด ว่าเขาจะออกจากคุกวันไหน ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่
ด้านพนักงานรายหนึ่งเป็นฝ่ายบุคคลของบริษัท ก็ได้เปิดใจว่า ตนได้รับสายจากน้องในบริษัทบอกว่าตำรวจมาขอพบ พอไปถึงก็มีหมายค้น หลังค้นก็มีการตรวจยึดโทรศัพท์ ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่กองปราบ
ในมุมของประชาชน ตนไม่ควรถูกกระทำแบบนี้ เพราะไปในฐานะพยาน แต่ใช้เวลาในการสอบปากคำตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงสามทุ่ม ซึ่งถือนานพอสมควร ตำรวจมีการถามเกี่ยวกับเรื่องคดี แม้ตำรวจไม่ได้ข่มขู่โดยตรง แต่ก็พยายามหว่านล้อม ใช้ท่าทีที่ทำให้รู้สึกกดดัน ตนก็รู้สึกไม่แฟร์ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
ตนเองเป็นฝ่ายบุคคล ดูแลในส่วนพนักงานอย่างเดียว มีพนักงาน 80 กว่าคน ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาพนักงานที่ค่อนข้างที่จะหวาดกลัว เพราะมีการตีข่าวว่าพนักงานไปเกี่ยวโยง มีความกังวลว่าวันดีคืนดีจะเป็นจำเลยสังคมไหม ส่วนเรื่องของเงินเดือนยังไม่สามารถจ่ายได้ เพราะถูกอาญัติ ตามที่เป็นข่าว ก็ดูแลกันไปก่อน