ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้ารายย่อย และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เป็น 7.325% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เป็น 7.175% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เป็น 6.925% ต่อปี พร้อมทั้งขยายมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME รายย่อย ไปจนถึง 31 ธันวาคมนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุด 15 พฤศจิกายนนี้
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ให้ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการรายเล็ก ที่รายได้ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวและภาระหนี้ยังอยู่ในระดับสูง มีผล 1 พฤศจิกายนนี้
โดยอัตราดอกเบี้ย MLR ปรับลด 0.12% จาก 7.27% เป็น 7.15%
อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับลด 0.25% จาก 7.59% เป็น 7.34%
อัตราดอกเบี้ย MRR ปรับลด 0.12% จาก 7.30% เป็น 7.18%
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ยังไม่มีการปรับลดลง
เช่นเดียวกับ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ ดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.25% ส่วนดอกเบี้ย MLR และ MRR ลดลง 0.125% ต่อปี ด้านเงินฝาก ทีทีบี มีบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่ 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 1.5% ต่อปี และรับดอกเบี้ยสูงขึ้นทุก 6 เดือน โดยรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.0% ต่อปี สามารถถอนก่อนครบกำหนดได้ หากจำเป็นต้องใช้เงิน
ขณะที่แบงก์รัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ได้แก่
ดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.10% จาก 6.975% เหลือ 6.875%
กรณีลูกค้าเกษตรกรกลุ่มเปราะบางและ SMEs ที่มีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง รวมถึงลูกหนี้ NPLs ที่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ปรับลดลง 0.25% เหลือ 6.725% ซึ่งเป็นการขยายเวลาออกไปอีก 5 เดือน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 67 จนถึง 31 มีนาคม 68
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR ลดลง 0.25% เหลือ 6.875% พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทออกไปให้นานที่สุด