วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า จากการสอบสวน คุณใบหนาด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2562 ตนเองไปเป็นลูกจ้างบริษัทร้านทองแถวจังหวัดสุราษฎร์ธานีและเรียนรู้วิธีการซื้อขาย กระทั่งปี 2566 ผู้ต้องหาอยากทำกิจกรรมเป็นของตัวเองจึงได้จดจัดตั้งบริษัทขึ้นมา โดยใช้ทุนจดทะเบียนประมาณ 1 ล้านบาท จากนั้นก็เริ่มไลฟ์ขายของซึ่งให้การสารภาพว่า รู้ทุกอย่าง ตั้งแต่แรก และพยายามจูงใจลูกค้าให้มาซื้อทอง โดยมีการกดราคาให้ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งมีการใช้เทคนิคในการหลอกล่อหลายวิธี
กระทั่งในปี 2566 ผู้ต้องหาได้หยุดกิจการโดยอ้างว่าราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลง มีเงินหมุนไม่ทัน ที่จะไปซื้อทองเพื่อไปหลอกล่อเหยื่อรายต่อไป กระทั่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งมาแจ้งความ และมีการบอกต่อกัน จนทำให้ลูกค้ามาซื้อทองกับผู้ต้องหาลดลง จนผู้ต้องหาต้องหยุดกิจการและถูกจับกุมในครั้งนี้
ส่วนทองที่นำไปไลฟ์สดเป็นทองแท้ที่ซื้อมาจากร้านทองจริง ซึ่งมีความผิด คือการฉ้อโกง และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ส่วน พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค จะต้องมาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ตอนนี้ทางตำรวจกำลังตั้งเป้าไปที่ข้อหาฟอกเงิน
ในส่วนของการสืบสวนลำดับต่อไป พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 เปิดเผยว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวน เพื่อสำรวจว่าเงินที่ได้มาจากการขายทองนำไปซื้อทรัพย์สินที่ไหนบ้าง หรือมีการโอนไปยังผู้ใดบ้าง และมีการปิดบังซุกซ่อนทรัพย์สินหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหามี อยู่ 3 บัญชี โดยมีเงินติดค้างในบัญชีเพียงหลักหมื่น และยังพบว่ามีการดำเนินไปซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบ้าน ซึ่งเป็นลักษณะของการผ่อนจ่าย รวมถึงบางส่วนได้นำไปจำนำ ส่วนรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาในการตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกครั้ง โดยเบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 200 ล้านบาท
ผู้ต้องหายังมีแอดมินที่ช่วยงานอยู่ 3 คน แต่จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการร่วมมือกันหรือไม่ แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะต้องมีการร่วมด้วยกัน
ส่วนกรณีของคุณเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ผู้ต้องหาให้การว่าคุณเจนนี่ได้มาร้องเพลงในวันเกิดจริง แต่ไม่ได้ผลประโยชน์ในการไลฟ์สดในครั้งนั้น ซึ่งผู้ต้องหาเพียงสร้างกระแสและทำให้เกิดความน่าเชื่อถือกับร้านของตัวเองเท่านั้น แต่เบื้องต้นทางตำรวจก็จะเรียกตัวมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน
สำหรับปฏิบัติการลงพื้นที่ของ ตำรวจ สอท. ในวันนี้ ที่ได้นำหมายค้นจากศาลอาญา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 4 เป้าหมาย ประกอบด้วย
เป้าหมายที่ 1 บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ดิ อีเทอนิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน หมู่ 4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยผลการตรวจค้น ไม่พบผู้อาศัยภายในบ้าน
เป้าหมายที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านสิริเพลส รังสิต ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี เข้าตรวจสอบ พบว่าผู้อยู่อาศัยเป็นผู้เช่ารายใหม่ และพบพัสดุจากผู้เสียหายที่ถูกส่งกลับมายังบ้านหลังดังกล่าว ที่ผู้เช่ารายใหม่ได้เก็บไว้ให้
เป้าหมายที่ 3 บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจคันพบเฟอร์นิเจอร์สำหรับเก็บทอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่ปรากฏอยู่ในไลฟ์สด TkTok อุปกรณ์การเก็บทอง อุปกรณ์สำหรับไลฟ์สด และเอกสารสำคัญอีกหลายรายการ
และ สามารถจับกุม คุณใบหนาด ได้ที่ เป้าหมายที่ 4 เป็นบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4953/2567 ลง 8 ตุลาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อประชาชน” โดยเบื้องต้นทราบว่า คุณใบหนาด ได้หลบมากบดานอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา