วันที่ 17 กันายน 2567 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวผลการประชุมพรรคพลังประชารัฐ โดยบอกว่า มีการพูดคุยหลายเรื่อง ทั้งการรับรองรายงานการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา การเตรียมจัดตั้งศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคประชารัฐ รวมถึงการตั้งวิปฝ่ายค้านของพรรคจำนวน 2 คน คือ นายสุธรรม จริตงาม และนายอัคร ทองใจสด เพื่อประสานงานกับพรรคฝ่านค้านอื่นๆ เช่น พรรคประชาชน
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า ในการประชุมยังมีการหารือเรื่องการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยในวันที่ 19 กันยายนนี้ พรรคพลังประชารัฐคณะใหญ่ นำโดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จะลงไปช่วยเหลือประชาชน ซับน้ำตาชาวหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐถือว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านแล้ว ที่ผ่านมาที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ถือว่ามีข้อมูลของรัฐบาลขนาดไหน พล.ต.ท.ปิยะ บอกว่า ไม่ใช่แค่พรรคพลังประชารัฐที่มีข้อมูล แต่เชื่อว่าสื่อมวลชนและประชาชนก็มีข้อมูลจำนวนมาก เพียงแต่ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรค มีความคิดจะตั้งศูนย์ฯ ขึ้นมา เพื่อรวบรวมข้อมูลจากประชาชนที่เข้ามา ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกจำนวนมาก ที่ควรจะต้องมีการขยายต่อ
ส่วนที่เงียบมาตลอด เพราะเป็นมารยาทของการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้กระทั่งช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พรรคก็ไม่มีการตอบโต้หรือออกมาพูดอะไร แต่ขณะนี้เมื่อได้เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ขอทำหน้าที่ให้เต็มที่ตามที่ประชาชนคาดหวัง
เมื่อถามว่า พรรคเป็นฝ่ายค้าน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ได้มีการแยกกลุ่มบางส่วนไปเป็นฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐมี สส. 40 คน ตามกติกามารยาท ทุกคนต้องยึดมติพรรคเป็นหลัก และพรรคมีข้อบังคับจริยธรรมที่สูงกว่าพรรคอื่นๆ ทำให้พรรคมีงูเห่าไม่ได้ จะผิดจรรยาบรรณร้ายแรง ดังนั้น หากมีการฝืนมติพรรคและข้อบังคับพรรค ทางพรรคจะดำเนินการตามระเบียบ โดยเริ่มจากการตักเตือน ไปจนถึงมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ ซึ่ง พล.ต.ท.ปิยะ ไม่ตอบชัดว่าจะไปถึงขั้นขับออกหรือไม่