จากกรณี นายรังสรรค์ สุวรรณศร หรือ เฮียเค้ก เจ้าของร้านฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง ซึ่งตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ออกมาให้ข่าวว่า กำลังเตรียมเงินเพื่อจะไปซื้อทองคำรูปพรรณน้ำหนักอีก 100 บาท มาใส่เพิ่ม หลังปัจจุบันมี ทองรูปพรรณใส่ติดตัวอยู่แล้วกว่า 40 บาท
เรื่องนี้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารย์ในโลกโซเซียล ว่า ธุรกิจร้านขายบะหมี่เกี๊ยวของเฮียเค้ก ขายดิบขายดีขนาดไหน จนมีกำไรไปซื้อทองคำรูปพรรณมาใส่เพิ่มสวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและราคาทองคำที่พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง
เฮียเค้ก เล่าว่า ช่วงนี้ถึงแม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีแต่ที่ร้านของตนก็พออยู่ได้ เพราะตนทำกันแบบครอบครัวช่วยกันเองค้าขายกันเอง ส่วนสร้อยคอทองคำที่ใส่อยู่ที่คอตอนนี้ก็เพิ่งไปเปลี่ยนและเพิ่มน้ำหนักมา จากเส้นละ 10 บาทเป็นเส้นละ 15 บาท 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำก็เพิ่มเป็นเส้นละ 5 บาท 2 เส้น รวมน้ำหนักทองที่ใส่อยู่ก็ 40 บาท มูลค่าก็ 1600,000 กว่าบาท
ล่าสุดกรมสรรพากรเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบรายได้ของเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวเจ้านี้แล้วว่ามีการชำระภาษีเงินได้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาบนถนนแจ้งวัฒนะยาวไปถึงหัวถนนปากเกร็ดเอง มีร้านขายบะหมี่เกี๊ยวมากมายอยู่หลายร้านแต่ก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีเจ้าของร้านขายบะหมี่เกี๊ยวรายใดมียอดขายสูงกำไรดีแบบเจ้านี้มาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าเจ้าของร้านขายบะหมี่เกี๊ยวรายนี้มีธุรกิจตัวอื่น หรือรายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเติมหรือไม่
สำหรับการประเมินรายได้ จะเป็นการสอบถามและประเมินจากการเฉลี่ยลูกค้าในรายวันดูเพื่อตรวจสอบรายได้ของทางร้าน โดยไม่จำเป็นต้องไปนั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวเหมือนยุคก่อน