กรมชลประทานแจ้งเตือนผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มภาคกลาง เตรียมพร้อมรับมือน้ำที่จะเพิ่มขึ้น หลังเขื่อนเจ้าพระยาต้องเพิ่มการระบายน้ำเป็น 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระหว่างวันที่ 23-30 สิงหาคม คาดระดับน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้น 1-1.2 เมตร
สำนักงานชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดในลุ่มภาคกลาง ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 23-30 สิงหาคม 2567 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวสูงขึ้น 1-1.2 เมตร
กรมชลประทานขอให้ประชาชน บริษัท และห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง โป๊ะ แพร้านอาหาร ในพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และริมคลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เฝ้าระวังและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ พร้อมทั้งติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด ณ เวลา 13.00 น. ที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำได้ 767 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น 15 เซนติเมตรในรอบ 12 ชั่วโมง วัดได้ 15.78 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจากเดิม 400 เป็น 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 42 เซนติเมตรในรอบ 12 ชั่วโมง วัดได้ 8.66 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
